×

BREAKING: ศาลพิพากษาประหารชีวิต ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ คดีคลุมถุงดำฆ่า แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เป็นจำคุกตลอดชีวิต

โดย THE STANDARD TEAM
08.06.2022
  • LOADING...
BREAKING-NEWS

วันนี้ (8 มิถุนายน) เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน

 

ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาว่า อดีตผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก จำเลยคือ จำเลยที่ 1-5 และ 7 กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษทุกกระทงความผิด โดยให้ลงโทษมาตรา 289(5) ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและกระทำด้วยการทรมานทารุณโหดร้าย ซึ่งเป็นบทหนักสุดตามมาตรา 90 ลงโทษประหารชีวิต

 

ส่วนจำเลย 6 มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ให้ลงโทษ จำคุก 8 ปี

 

แต่อย่างไรก็ตามจำเลย 1-7 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีการให้เงินค่าปรงศพ 30,000 บาท เพื่อบรรเทาผลร้ายให้บิดามารดาผู้ตาย คนละ 300,000 บาท และช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งไปโรงพยาบาล จนกู้สัญญานชีพกลับมาได้ จึงลดโทษให้จำเลยคนละ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 6 คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน

 

สำหรับคดีนี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 จุดเริ่มต้นของคดีความที่ตำรวจกลายเป็นผู้กระทำความผิด และผู้ต้องหากลายเป็นเหยื่อ ในวันนั้นตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองนครสวรรค์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 2 ราย เป็นชายและหญิง มีการตรวจพบยาบ้ากว่า 1 แสนเม็ด

 

ทั้งสองถูกสอบสวนทันทีภายในห้องทำงานของฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยมีข้อมูลว่าผู้ต้องหาทั้งสองถูกเรียกเงินหลักล้านจากเจ้าหน้าที่ที่ทำคดี และต่อมามีภาพวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ในวันนั้นว่า นอกจากการเรียกรับเงินแล้ว มีการนำถุงคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต

 

การร้องเรียนและหลักฐานที่สามารถมัดตัวจากตำรวจชั้นผู้น้อย นำไปสู่การแพร่กระจายเรื่องในวงกว้าง จนท้ายที่สุดผู้มีส่วนรู้เห็นทั้ง 7 คน ถูกตัดสินดำเนินคดีจากกระบวนการยุติธรรม คือ

 

  1. พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ‘ผู้กำกับโจ้’
  2. พ.ต.ต. รวีโรจน์ ดิษทอง
  3. ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค
  4. ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา
  5. ด.ต. วิสุทธิ์ บุญเขียว
  6. ด.ต. ศุภากร นิ่มชื่น
  7. ส.ต.ต. ปวีณ์กร คำมาเร็ว

 

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย

  • เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  • เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  • ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
  • ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

 

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289(5) และ 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และ 172

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising