เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ ‘บองบอง’ บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำเผด็จการของฟิลิปปินส์ ประกาศภายหลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ (10 พฤษภาคม) โดยให้คำมั่นว่าจะทำงานเพื่อประชาชนทุกคน พร้อมส่งข้อความไปยังทั่วโลกให้ตัดสินเขาจากผลงานในฐานะประธานาธิบดี ไม่ใช่จากอดีตของครอบครัว
“จงตัดสินตัวผมไม่ใช่จากบรรพบุรุษ แต่จากการกระทำของผม” บองบองระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยโฆษกของเขา
โดยมาร์กอส จูเนียร์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนแรกที่คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย และทิ้งห่างคู่แข่งอย่างขาดลอย
ชัยชนะของเขาถือเป็นการกลับคืนสู่อำนาจทางการเมืองของตระกูลมาร์กอสอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งครอบครัวต้องลี้ภัยไปยังฮาวาย ระหว่างการลุกฮือประท้วงโค่นอำนาจของประชาชนในปี 1986 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดอำนาจเผด็จการอันยาวนานกว่า 20 ปี ของมาร์กอสผู้พ่อ
ทั้งนี้บองบองประกาศนโยบายชัดเจนในระหว่างหาเสียงคือ การสร้างความปรองดองและเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวฟิลิปปินส์ แม้นักวิเคราะห์ทางการเมืองจะชี้ว่า การรับตำแหน่งประธานาธิบดีของบองบองอาจไม่ส่งเสริมความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ เนื่องจากยังมีนักการเมืองและประชาชนไม่น้อยที่ต่อต้านและไม่ชื่นชมในอิทธิพลทางการเมืองและความมั่งคั่งของตระกูลมาร์กอส
สำหรับผลการนับคะแนนล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ จนถึงช่วง 10.00 น. วันนี้ (11 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น พบว่าบองบองได้คะแนนเสียงไปกว่า 31 ล้านเสียง นำหน้าคู่แข่งอันดับ 1 คือ เลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ที่ได้คะแนนเสียงประมาณ 14.8 ล้านเสียง ซึ่งการนับคะแนนจนถึงตอนนี้เสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 98% และคาดว่าผลนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศได้ในช่วงปลายเดือนนี้
ภาพ: Photo by Ezra Acayan / Getty Images
อ้างอิง:
