×

เหตุกราดยิงเทศกาลชาวยิวที่หาดบอนได เลวร้ายที่สุดของออสเตรเลียในรอบเกือบ 30 ปี เรารู้อะไรแล้วบ้าง

15.12.2025
  • LOADING...
เหตุกราดยิงเทศกาลชาวยิวที่หาดบอนได เลวร้ายที่สุดของออสเตรเลียในรอบเกือบ 30 ปี เรารู้อะไรแล้วบ้าง

เกิดเหตุกราดยิง ณ สวน Archer Park บริเวณหาดบอนได นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวานนี้ (14 ธันวาคม) เวลาประมาณ 18:47 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยกลุ่มเป้าหมายคือ ชุมชนชาวยิวประมาณ 1,000 คนที่มารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองคืนแรกของเทศกาลฮานุกกะห์ (Hanukkah) ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งแสงไฟ (Festival of Lights) ที่สำคัญของศาสนายูดาห์ (Judaism) กินเวลา 8 วัน 8 คืน

 

ทางการออสเตรเลียได้ประกาศให้เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย อีกทั้งยังถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายที่สุดของออสเตรเลียในรอบเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่เหตุสังหารหมู่ที่พอร์ตอาร์เทอร์ รัฐแทสเมเนีย เมื่อปี 1996 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 35 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20 คนจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

 

ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยว่า ผู้ลงมือก่อเหตุทั้ง 2 คนเป็น ‘พ่อลูกกัน’ ผู้เป็นพ่ออายุ 50 ปี และลูกชายอายุ 24 ปี โดยผู้เป็นพ่อถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาการยังทรงตัวอยู่ในโรงพยาบาล เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อของพ่อลูกคู่นี้แต่อย่างใด

 

ผู้เป็นพ่อเป็นสมาชิกชมรมปืนและถือใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนมานานกว่า 10 ปี โดยไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ความมั่นคง (ASIO) ระบุว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลที่ทางการรู้จักอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ถูกประเมินว่าเป็นภัยคุกคามเร่งด่วนในขณะนั้น

 

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และยังมีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลอีกประมาณ 40 คน โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตมีอายุระหว่าง 10 ถึง 87 ปี รายชื่อผู้เสียชีวิตบางส่วนที่ได้รับการยืนยัน เช่น แดน เอลคายัม วัยรุ่นชาวฝรั่งเศส รวมถึง อเล็กซ์ ไคลท์มัน ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่เสียชีวิตขณะเอาตัวบังกระสุนให้ภรรยา

 

ท่าทีของฝ่ายต่างๆ และผลกระทบที่เกิดขึ้น

 

ผู้นำชุมชนชาวยิวและรัฐบาลอิสราเอลวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออสเตรเลียอย่างรุนแรง โดยระบุว่ามีการเตือนเรื่อง ‘กระแสต่อต้านยิว’ (Antisemitism) ที่พุ่งสูงขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่รัฐบาลกลับ ‘ล้มเหลว’ ในการออกมาตรการป้องกันที่เพียงพอ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวโทษว่า เป็นผลพวงจากการปล่อยให้มีการอาละวาดของลัทธิต่อต้านยิวตลอดสองปีที่ผ่านมา

 

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ต่อต้านยิวในออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นับตั้งแต่เหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และสงครามในกาซา

 

ระดับภัยคุกคามการก่อการร้ายของออสเตรเลียยังคงอยู่ที่ระดับ ‘น่าจะเป็นไปได้’ (Probable) หรือมีโอกาสเกิดเหตุ 50% โดยเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น นิวยอร์ก เบอร์ลิน และลอนดอน ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับงานเทศกาลฮานุกกะห์ทันทีหลังเกิดเหตุ

 

ทางด้าน แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็น ‘การกระทำของปีศาจ’ และเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่ชาวออสเตรเลียเชื้อสายยิว โดยอัลบาเนซีเสนอให้ปฏิรูปกฎหมายอาวุธปืนให้เข้มงวดยิ่งขึ้นไปอีก เช่น การจำกัดจำนวนอาวุธปืนที่บุคคลสามารถใช้หรือได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง รวมถึงการทบทวนใบอนุญาตเป็นระยะๆ และการตรวจสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

 

ขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่โหดเหี้ยม โดย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เพื่อหารือกันเกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า ไม่มีชุมชนใดที่ควรต้องหวาดกลัวการเฉลิมฉลองศรัทธาและประเพณีของตนในที่สาธารณะ เนื่องจากภัยคุกคามจากความรุนแรงสุดโต่งและการก่อการร้าย ไม่สามารถประนีประนอมกับการต่อต้านชาวยิวได้ ภัยคุกคามนี้จะต้องถูกเผชิญหน้าและเอาชนะให้ได้

 

นักวิเคราะห์มองว่า เหตุกราดยิงในครั้งนี้เป็นเหมือนการเจาะทะลุ ‘เกราะป้องกัน’ ของกฎหมายปืนที่เข้มงวดของออสเตรเลียที่ใช้มานาน 30 ปี นับตั้งแต่เหตุสังหารหมู่ที่พอร์ตอาร์เทอร์ ปี 1996 ซึ่งมีผลทำให้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนของออสเตรเลียเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะการห้ามอาวุธกึ่งอัตโนมัติและอาวุธปืนอัตโนมัติเกือบทั้งหมด และยังเป็นการตอกย้ำถึงความเปราะบางของชุมชนชาวยิวทั่วโลก ท่ามกลางกระแสความเกลียดชังที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ในประเทศที่ดูเหมือนจะปลอดภัยอย่างออสเตรเลีย

 

ภาพ: NINE NETWORK / SEVEN NETWORK / AUSTRALIAN BROADCASTING CORPORATION Handout via Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising