×

‘ตลาดบอนด์’ อาจใกล้จบรอบหมี หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาเผชิญแรงขายหนักถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ ลุ้นผลประชุม Fed คืนนี้

15.06.2022
  • LOADING...
ตลาดบอนด์

ตลาดพันธบัตรทั่วโลกกำลังพลิกฟื้นจากภาวะตลาดหมี หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงสุดรอบ 40 ปี ซึ่งจะกดดันให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงขึ้น Bloomberg เผยดัชนีผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกดิ่งลง 19.7% จากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นปี 2564 ขณะที่แรงขายครั้งใหญ่สัปดาห์ที่แล้วกวาดมูลค่าตลาดพันธบัตรหายไป 10 ล้านล้านดอลลาร์

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า พันธบัตรทั่วโลกกำลังจะพลิกฟื้นจากภาวะตลาดหมี หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เร่งตัวสูงสุดรอบ 40 ปี หรือ 4 ทศวรรษ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จำต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งการตัดสินใจของ Fed จะเกิดขึ้นในวันพุธนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

 

ขณะที่ดัชนี Bloomberg Global Aggregate ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและเอกชน ปรับลดลง 19.7% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม 2564

 

ทั้งนี้ ตลาดตราสารหนี้เริ่มสั่นคลอนตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน หลังจากที่มีการรายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 8.6% ซึ่งท้าทายต่อคาดการณ์ว่านี่คือเงินเฟ้อระดับสูงสุดแล้ว ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นมากกว่า 0.5% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 สะท้อนถึงแรงขายพันธบัตรครั้งใหญ่

 

การเทขายในตราสารหนี้ทำให้มูลค่าตลาดสูญหายไปแล้วเกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ เรียกได้ว่าลบล้างเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอันมหาศาลที่ธนาคารกลางอัดฉีดเข้ามาเพื่อประคองการเติบโตของ GDP ในช่วงที่ทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่

 

ด้านดัชนีพันธบัตรโลกปรับลดลง 16% นับจากต้นปี 2565 ซึ่งมากกว่าการปรับลดลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2533 ถึง 3 เท่าตัว สาเหตุหลังมาจากอุปทานตกต่ำ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น และอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งผลักดันเงินเฟ้อสู่ระดับสูงจนเกิดความกังวลว่าธนาคารกลางจะไม่สามารถรับมือได้

 

ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการวางนโยบายเพื่อเอาชนะและควบคุมเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ส่งสัญญาณความเสี่ยงว่าอัตราเงินเฟ้อระยะยาวอาจจะคุมไม่อยู่ ซึ่งจะเพิ่มแรงผลักดันให้ Fed จำต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงมากขึ้น

 

ตู้ฮาโจว หัวหน้าตราสารหนี้ประจำเอเชียของ Robeco Singapore Private Ltd. กล่าวว่า ตลาดกังวลว่า Fed จะกำหนดนโยบายไม่เท่าทันความเสี่ยง และความเสี่ยงของการคาดการณ์เงินเฟ้อจะกดดันตลาดเพิ่ม

 

“การคะเนช่วงหน้าและลงมือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า แทนที่จะปล่อยให้ความกังวลต่างๆ กดดันตลาดต่อไป” ตู้กล่าว

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising