วิกฤตไฟป่าในแอมะซอนไม่ได้รุนแรงเฉพาะแค่ในบราซิล โบลิเวียซึ่งถือเป็น 1 ใน 9 ประเทศที่มีพื้นที่ของผืนป่าแอมะซอนตั้งอยู่
ก็กำลังประสบปัญหาไฟป่าอย่างหนักในช่วงเวลานี้
สถาบันวิจัยด้านอวกาศแห่งชาติบราซิล (INPE) ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง 27 สิงหาคม 2019 โบลิเวียตรวจพบไฟป่าในแอมะซอนกว่า 19,100 จุด คาดพื้นที่ป่าถูกทำลายแล้วกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผิวหน้าดินเปลี่ยนเป็นสีดำและพบซากสัตว์ตายเป็นจำนวนมาก
นักอนุรักษ์ในโบลิเวียโจมตีว่านโยบายของรัฐบาลที่เน้นการพัฒนามากกว่าการอนุรักษ์ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตไฟป่าครั้งนี้ คล้ายคลึงกับบราซิล
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการโบลิเวียได้อนุญาตให้เกษตรสามารถจุดไฟเผา เพื่อเตรียมที่ดินทำกินได้ 5-20 เฮกตาร์ (ราว 0.05-0.2 ตารางกิโลเมตร) เป็นหนึ่งในนโยบายที่เร่งให้เกิดวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ขณะนี้ทางการมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานอย่างเต็มความสามารถ พร้อมใช้เครื่องบิน Boeing 747 ช่วยฉีดน้ำและโปรยสารเคมีเพื่อดับไฟป่า
วิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ อาจเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้ประธานาธิบดีเอโบ โมราเลสไปไม่ถึงฝั่งฝัน พลาดการนั่งเก้าอี้ผู้นำโบลิเวียเป็นสมัยที่ 4 ในศึกการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้