ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ BOJ จะเลิกใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาด หรือก่อนที่ผลการต่อรองค่าจ้างสำหรับบริษัทขนาดเล็กจะได้ข้อสรุป
Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ NHK ว่า มีความเป็นไปได้ที่ BOJ จะตัดสินใจกลับทิศนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-Loose) ที่ใช้ในปัจจุบัน โดยอาจตัดสินใจก่อนผลการต่อรองค่าจ้างบริษัทขนาดเล็กจะได้ข้อสรุปด้วยซ้ำ
Ueda กล่าวว่า หนึ่งในเงื่อนไขที่ BOJ ใช้พิจารณาคือ BOJ สามารถทำให้เกิดวงจรที่เหมาะสมระหว่างค่าจ้างกับเงินเฟ้อ (Wage-Price Virtuous Cycle) ได้หรือยัง ทำให้ BOJ ต้องจับดูการต่อรองการปรับขึ้นค่าจ้างของแรงงานในปีหน้า (ปี 2567) เพื่อวิเคราะห์ว่าการปรับขึ้นของค่าจ้างจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อมากแค่ไหน
ทั้งนี้ สำหรับบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งคาดว่าจะสามารถขึ้นค่าจ้างได้ตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน ภายในช่วงกลางเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้นก่อนจะรู้บทสรุป
“BOJ ควรรอข้อมูลทั้งหมดก่อนตัดสินใจ แต่มีความเป็นไปได้ที่ BOJ จะตัดสินได้ก่อน หากมีตัวชี้วัดอื่นๆ ของบริษัทขนาดเล็ก เช่น กำไรที่เพิ่มขึ้นปรากฏออกมา รวมไปถึงหากการบริโภคและการลงทุนในระดับมหภาคยังดำเนินต่อไปโดยคงประสิทธิภาพที่ดีไว้ได้ ก็จะส่งผลดีต่อวงจรค่าจ้างและเงินเฟ้อ ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่ BOJ จะตัดสินล่วงหน้าได้ในระดับหนึ่ง” Ueda กล่าว
ทั้งนี้ หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุชัดว่า มีแผนจะเลิกใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-Loose) หรือเลิกใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบที่ใช้ยาวนานมาตั้งแต่ปี 2016 เมื่ออัตราเงินเฟ้อบรรลุระดับเป้าหมายที่ 2% ‘อย่างยั่งยืน’ ควบคู่ไปกับการปรับขึ้นของค่าจ้าง
อ้างอิง: