×

BOI เร่งเสนอนายกฯ ไฟเขียวแผนลงทุน ‘EV – แบตเตอรี่’ ก่อนยุบสภา หลังบิ๊กคอร์ปอุตสาหกรรมใหม่แห่ย้ายฐานผลิตมาไทย

04.03.2023
  • LOADING...
EV - แบตเตอรี่

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อัดแพ็กเกจ EV – แบตเตอรี่ เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันก่อนนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ระบุหากช้าจะกระทบผู้ผลิต EV พร้อมกางแผนดึงดูดเงินลงทุนต่างประเทศ ลุยโรดโชว์จีน เมษายน 2566 เจาะมณฑลเซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น ดึงดูดบิ๊กคอร์ปรายใหม่ในอุตสาหกรรม ‘EV อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล’ หวังเพิ่มการจ้างงานตำแหน่งใหม่กว่า 6 แสนอัตรา

 

เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทีมปฏิบัติการเชิงรุกได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ‘Better and Green Thailand 2030’ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายดึงดูดการลงทุนมากกว่า 2 ล้านล้านบาท สร้างตำแหน่งงานใหม่ 625,000 อัตรา และเพิ่ม GDP ของประเทศอีก 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ม.ล.ชโยทิตกล่าวว่า ที่ผ่านมาจากการโรดโชว์นักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทยมาโดยตลอด โดยปัจจัยหลักคือความพร้อมด้านแรงงาน ศักยภาพ ซึ่งเป็นฮับของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และจะเห็นว่ามีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานผลิต ไม่ว่าจะเป็นเกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM), เอสเอไอซี มอเตอร์ (MG) และ บีวายดี ออโต้ (BYD) รวมถึงฟ็อกซ์คอนน์ที่ร่วมมือกับ ปตท. เช่นเดียวกับ ‘อุตสาหกรรมดิจิทัล’ ซึ่งมีการลงทุนขนาดใหญ่ที่ย้ายฐานการผลิตมาไทยแล้ว ทั้ง Amazon Web Services (AWS) ผู้ให้บริการ Data Center และ Cloud Service ในระดับ Hyperscale อันดับ 1 ของโลก

 

และจากการที่ไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกาช่วงที่ผ่านมา ยังมีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก เช่น Google, Western Digital และ Analog Devices Amazon ล้วนมีแผนขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม อีกทั้งล่าสุดยังมี Tesla และ BMW ซึ่งพร้อมที่จะขยายการลงทุนรถยนต์ EV เพิ่ม ล่าสุดบริษัทผู้ผลิตชิป (เซมิคอนดักเตอร์) จากไต้หวันและสหรัฐฯ มีแผนตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยแล้ว ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังระดับโลก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้

 

ดังนั้นจะเห็นว่าขณะนี้ไทยมีความพร้อม มีจุดแข็ง มีศักยภาพ และมีข้อดีมากกว่าคู่แข่งในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย

 

“ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมใหม่ของไทยมีความพร้อมรองรับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ของไทยซึ่งมีศักยภาพและมีคุณภาพ ในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เช่น EV, Data และอิเล็กทรอนิกส์ หากใครที่ได้เข้าไปเป็นเอ็นจิเนียร์ในบริษัทเหล่านี้เงินเดือนสตาร์ทหลักแสน ที่สำคัญคือเด็กเก่งๆ ได้ทำงานที่ไทย เด็กจบใหม่มีงานรองรับ ดังนั้นจากการที่ผมไปโรดโชว์มาก็พยายามจะนำเสนอสถาบันการศึกษา ความพร้อมทุกๆ ด้าน ซึ่งต่างชาติเองก็ชื่นชมและตอบรับดี ส่วนความกังวลที่ว่าไทยจะสู้เวียดนามได้ไหม สู้อินโดนีเซียได้ไหม ต้องอย่าลืมว่าความต่างคืออุตสาหกรรมของเราจะมุ่งต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ New S-Curve”

 

ม.ล.ชโยทิตกล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าแพ็กเกจมาตรการสนับสนุนการลงทุนรถยนต์ EV และแบตเตอรี่ EV ว่าเร็วๆ นี้ (วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566) จะนำแผนและมาตรการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุม ครม. ก่อนยุบสภาแน่นอน เพื่อพิจารณาในหลายประเด็น ทั้งการจูงใจ การอุดหนุนเรื่องของการผลิตแบตเตอรี่ EV และเงื่อนไขการขอขยายเวลาการผลิตรถ EV คืนมากกว่า 2 ปี สำหรับผู้ผลิตรายใหม่ได้หรือไม่ เนื่องจากเงื่อนไขเดิมได้กำหนดไว้ว่าผู้ประกอบการหรือค่ายรถที่เข้าร่วมต้องรับเงื่อนไข ได้แก่ ผลิตรถ EV ในประเทศชดเชยให้เท่ากับจำนวนที่นำเข้าช่วงปี 2565-2566 ภายในปี 2567 แต่จะขอขยายเวลาได้ถึงปี 2568 ซึ่งหากไม่สามารถเข้า ครม. ทัน จะทำให้เรื่องของนโยบายไม่สามารถดำเนินต่อไปได้

            

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤตแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้เกิดการโยกย้ายฐานผลิตครั้งใหญ่ ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยทั้งด้านความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรที่มีคุณภาพ อุตสาหกรรมสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเป็นศูนย์กลางในหลายๆ ด้านของอาเซียน โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า, ดิจิทัล, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, BCG และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน 5 อุตสาหกรรมนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2563-2565) รวมกัน 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท ดังนี้

 

  • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า มียอดขอรับการส่งเสริมรวม 46 โครงการ มูลค่า 78,115 ล้านบาท ผู้ประกอบการรายสำคัญ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์, เกรท วอลล์ มอเตอร์, เอสเอไอซี มอเตอร์ (MG), บีวายดี ออโต้, ฮอริษอน พลัส, กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ และอีวีโลโม เทคโนโลยีส์ เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมดิจิทัล มียอดขอรับการส่งเสริมรวม 420 โครงการ มูลค่า 64,481 ล้านบาท เช่น อะเมซอน ดาต้า เซอร์วิสเซส, อาลีบาบา คลาวด์, หัวเว่ย เทคโนโลยี่, เทเลเฮ้าส์ และกลุ่มทรู เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ มียอดขอรับการส่งเสริมรวม 92 โครงการ มูลค่า 113,990 ล้านบาท เช่น ซีเกท เทคโนโลยี, เวสเทิร์น ดิจิตอล, ไมโครชิพ เทคโนโลยี, แม็กซิม อินทริเกรดเต็ด โปรดักส์, แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์, โตชิบา เซมิคอนดัคเตอร์ และชิโคนี่ อีเลคทรอนิคส์ เป็นต้น
  • อุตสาหกรรม BCG มียอดขอรับการส่งเสริมรวม 1,911 โครงการ มูลค่า 305,170 ล้านบาท เช่น เนเชอร์เวิร์คส์, จีจีซี เคทิส ไบโออินดัสเทรียล, พีทีที เอ็มซีซี ไบโอเคม, พูแรค, เนสท์เล่, อายิโนะโมะโต๊ะ, สไปเบอร์ และเอ็นวิคโค เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มียอดขอรับการส่งเสริมรวม 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท เช่น เดอะ สตูดิโอ พาร์ค, กันตนาสตูดิโอ, กราวิตี้ เกม เทค และแพนดอร่า โพรดักชั่น เป็นต้น

 

สำหรับแผนการดึงการลงทุนของ BOI ในเดือนเมษายน 2566 ได้เตรียมเดินทางไปประเทศจีน ใน 3 มณฑลหลัก คือ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น หลังจากที่จีนได้เปิดประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะเจรจากับกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ๆ ทั้งอุตสาหกรรม EV, อิเล็กทรอนิกส์, ดิจิทัล รวมไปถึง BCG และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดย BOI ได้ออกมาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program) เพื่อกระตุ้นให้บริษัทชั้นนำจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทยมากขึ้น

 

ส่วนแผนจัดกิจกรรมเชิงรุกเจาะกลุ่มเป้าหมายกว่า 200 ครั้ง ทั้งการจัดคณะโรดโชว์จากส่วนกลางและสำนักงาน BOI 16 แห่งทั่วโลก เพื่อเผยแพร่มาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่และโอกาสการลงทุนในประเทศไทย การจัดสัมมนารายประเทศ รายอุตสาหกรรม การจับมือกับกลุ่มที่จะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุน เช่น ธนาคารใหญ่ บริษัทที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตร และการเดินสายพบปะบริษัทสำคัญ

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากจีนและสหรัฐฯ แล้ว โรดโชว์ครั้งต่อไป BOI จะเร่งดึงดูดการลงทุนในสหภาพยุโรป (EU) เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น จากนั้นจะตามมาด้วยการโรดโชว์ที่ไต้หวัน เกาหลีใต้ และอินเดีย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising