×
SCB Omnibus Fund 2024

‘บิตคอยน์’ พุ่งยืนเหนือ 53,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลัง ‘เจพีมอร์แกน’ เตรียมเปิดตัวกองทุน

27.04.2021
  • LOADING...
‘บิตคอยน์’ พุ่งยืนเหนือ 53,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลัง ‘เจพีมอร์แกน’ เตรียมเปิดตัวกองทุน

สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า บิตคอยน์คืนชีพฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังราคาปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 วันที่ผ่านมา โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ในช่วงเช้าเพิ่มขึ้น 11.94% มาอยู่ที่ 53,686.33 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้บิตคอยน์ดีดตัวขึ้นมาได้เป็นผลจากการที่ เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ กำลังเตรียมจัดตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้าในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และอาจเปิดตัวกองทุนบิตคอยน์อย่างเร็วที่สุดในช่วงฤดูร้อนนี้

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาปิดตลาดผสมผสาน โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดระลอกใหม่ปิดที่ 4,187.62 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ปิดตลาดไต่ขึ้น 0.9% มาอยู่ที่ 14,138.78 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ โดยเป็นผลมาจากการดีดตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ในช่วงที่มีการทยอยเปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในช่วงสัปดาห์นี้

 

ด้านดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 0.2% ปิดที่ 33,981.57 โดยตามหุ้นบริษัท Procter & Gamble, Walmart และ Coca-Cola ซึ่งหุ้นของผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านี้ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าการปรับขึ้นราคาสินค้าของบริษัทเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ โดยหลายบริษัทได้ออกมาประกาศขอปรับขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านี้ปรับราคาขึ้น

 

ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของมูลค่าตลาดของเอสแอนด์พี 500 มีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ตั้งแต่วันอังคาร (27 เมษายน) ไปจนถึงวันพฤหัสบดี (29 เมษายน) นี้ โดยหนึ่งในนั้นรวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Alphabet บริษัทแม่ของ Google, Apple Inc. และ Facebook ซึ่งหุ้นของบริษัทเหล่านี้ เมื่อวานพากันปิดบวกถ้วนหน้า

 

จนถึงขณะนี้มีบริษัทต่างๆ ในเอสแอนด์พี 500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว 124 แห่ง ในนั้นราว 85.5% มีผลดำเนินการดีเกินคาดหมาย รวมถึง Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐฯ ที่มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 10,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 74% ขณะที่กำไรสุทธิของ Tesla ประจำไตรมาสอยู่ที่ 438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

รายได้ของ Tesla มาจากยอดขายรถยนต์ Model 3 และ Model Y ในไตรมาสแรกที่สามารถส่งมอบได้ 184,800 คัน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และแสดงให้เห็นการเติบโตรายปีมากกว่า 100% ขณะที่รายได้อีกส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนในบิตคอยน์

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising