×

‘บิตคอยน์’ ร่วงต่ำกว่า 5.5 หมื่นดอลลาร์ หลัง ‘พาวเวลล์’ ออกโรงเตือนเป็นแค่สินทรัพย์เก็งกำไร ไม่สามารถทดแทนเงินดอลลาร์ได้

23.03.2021
  • LOADING...
ราคาบิตคอยน์

ราคาบิตคอยน์ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่พุ่งทะลุระดับ 6 หมื่นดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ ไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 61,795 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ (ประมาณ 1.9 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2021 

 

โดยราคาล่าสุดของบิตคอยน์ในช่วงเช้าวันนี้ (23 มีนาคม) ตามเวลาประเทศไทย เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 54,685 ล้านดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ (ประมาณ 1.76 ล้านบาท) ลดลงจากวันก่อนหน้าราว 3.36% และลดลงจากช่วงที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดราว 11.5%

 

การปรับลดลงของบิตคอยน์เป็นผลสืบเนื่องจากธนาคารกลางหลายๆ ประเทศเริ่มออกมาเตือนถึงการเข้าลงทุนในบิตคอยน์ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียเพิ่งจะประกาศว่าจะออกกฎหมายห้ามการลงทุนในบิตคอยน์ ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงความเห็นว่าบิตคอยน์เป็นเพียงแค่สินทรัพย์เก็งกำไร ไม่มีคุณสมบัติเป็นสกุลเงินที่มาทดแทนเงินดอลลาร์

 

โดยรายงานระบุว่า ในระหว่างการเข้าร่วมประชุมกับทางธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ออกโรงแสดงความคิดเห็นที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ที่กำลังเป็นกระแสได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนชาวอเมริกัน ด้วยการเตือนให้ชาวอเมริกันทำความเข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงของการลงทุนในบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ ในตลาด

 

ทั้งนี้ ในมุมมองของ Fed พาวเวลล์กล่าวว่าสะดวกใจที่จะมองสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรมากกว่าสินทรัพย์แบบสกุลเงินทั่วไป (Currency) ที่สามารถกักเก็บมูลค่าได้ เพราะสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนในระดับสูง อีกทั้งสกุลเงินดิจิทัลยังไม่ได้รับการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์อื่นๆ แตกต่างจากสกุลเงินปกติทั่วไป เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Fed

 

ประธาน Fed กล่าวชัดเจนว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรมากกว่า ทำให้ไม่ถูกใช้เพื่อเป็นสื่อกลางในการชำระเงิน และมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่จะมาทดแทนทองคำ มากกว่าที่จะมาทดแทนดอลลาร์

 

ขณะเดียวกัน พาวเวลล์ยังใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แม้จะมีการศึกษาเรื่องการออกเงินสกุลเงินดอลลาร์กลาง แต่ Fed จะไม่เดินหน้าออกสกุลเงินดิจิทัลหากไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส รวมถึงการออกกฎหมายที่จำเป็นต่อการออกสกุลเงินดังกล่าว

 

นอกจากนี้ ประธาน Fed ยังย้ำว่า การที่ Fed ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์จากเทคโนโลยีนวัตกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความพยายามของ Fed ในการสร้างสกุลเงินดิจิทัลต้นแบบแต่อย่างใด

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising