นักลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะคนที่เข้าซื้อในสถานะ Long หรือกลุ่มที่มองว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ต้องเผชิญกับการถูกล้างพอร์ต (Liquidate) กันไปถ้วนหน้า โดยมีมูลค่ารวมกันกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังราคา Bitcoin ร่วงต่ำกว่าระดับ 40,000 ดอลลาร์ในรอบ 24 ชั่วโมง
การ Liquidate หรือการถูกล้างพอร์ตนั้นเกิดขึ้นเพื่อปิดสถานะของนักลงทุนที่ใช้อัตราทดในการลงทุน เพื่อปกป้องส่วนของเงินที่ถูกยืมไป
ส่วนสถานะ Long หรือการมองว่าสินทรัพย์นั้นๆ จะปรับตัวสูงขึ้นนับจากวันที่ซื้อ โดน Liquidate ไปกว่า 90% มีมูลค่าสูงถึง 1.3 หมื่นล้านบาทในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ถือสัญญาฝั่ง Short หรือคาดการณ์ว่าสินทรัพย์จะปรับตัวลง ก็มีความเสียหายราว 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากราคาที่รีบาวด์กลับขึ้นมาในบางช่วง
ในสัดส่วนความเสียหายดังกล่าวนั้น มาจาก Bitcoin 4.6 พันล้านบาท, Ethereum 3 พันล้านบาท, Solana ราว 360 ล้านบาท และส่วนของ DOGE และ STEPN GMT รวมกัน 480 ล้านบาท
โดยความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นบนศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต OKX มูลค่าราว 4.5 พันล้านบาท ซึ่งในนั้นกว่า 96% หรือประมาณ 4.3 พันล้านบาท มาจากการถือสถานะ Long
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของคริปโตในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้น เกิดจากความกังวลของตลาดว่าเศรษฐกิจอาจเกิดการถอถอย หลังจากการแถลงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในสินทรัพย์อื่นอย่างตลาดหุ้นก็ปรับตัวลงไปในทิศทางเดียวกัน โดยดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง 1.19%, Nasdaq ปรับตัวลง 2.18% และ S&P 500 ปรับตัวลง 1.69%
อ้างอิง:
