Binance Smart Chain ถูกระงับชั่วคราว หลังเหล่าแฮกเกอร์พยายามแฮ็กเงินหนีจากเครือข่าย มูลค่าราว 4 พันล้านบาท ขณะที่ Binance ย้ำว่าเงินดังกล่าวยังปลอดภัย
ในช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 ตุลาคม) Binance Smart Chain ถูกระงับชั่วคราว หลังมีหลักฐานบนเครือข่ายว่าเหล่าแฮกเกอร์พยายามโอนเงินหนีออกไป มูลค่าสูงถึง 4 พันล้านบาท ในรูปของคริปโตเคอร์เรนซี
ทางบัญชีออฟฟิเชียลบนทวิตเตอร์ของ BNB Chain ได้รายงานออกมาว่า ‘มีการระงับการทำงานของเครือข่ายชั่วคราว หลังเกิดกิจกรรมที่ไม่ปกติบนเครือข่าย’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Bitcoin Rainbow Chart อัปเดตแถบสีม่วงอันใหม่ ‘1 BTC = 1 BTC’ หลังจากราคาบิทคอยน์ดิ่งลงต่อเนื่อง
- ทำไมเหรียญ LUNC ถึงพุ่งกว่า 425% ภายใน 14 วัน? อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งนี้
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
โดยในช่วงเช้าประมาณ 04.00 น. ของวันพฤหัสบดี (7 ตุลาคม) พบว่ามีเหรียญ BSC จำนวน 2 ล้านเหรียญถูกพยายามเคลื่อนย้ายออกโดยแฮกเกอร์ แต่ความเสียหายจริงกลับมีมูลค่าน้อยกว่านั้น ซึ่ง BSC ได้ประเมินความเสียหายว่ามีการเคลื่อนย้ายราว 3-4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่าย BSC สามารถระงับไว้ได้แล้วประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ การระงับเครือข่ายของ BSC ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเท่าไรนัก เนื่องจากบล็อกเชนทำงานในรูปแบบของการกระจายศูนย์ และการเปิด-ปิดเครือข่ายโดยคนใดคนหนึ่งนั้นก็ค่อนข้างจะขัดกับคอนเซปต์ของบล็อกเชน
แต่การระงับเครือข่ายของ BSC ครั้งนี้ก็นับว่าคุ้มกับความเสี่ยง ที่หากไม่ทำก็อาจจะต้องเสียสินทรัพย์บน BSC อีกเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับที่เสียไป ณ ขณะนี้
โดย BSC ได้ยืนยันแล้วว่า การโดนแฮ็กดังกล่าวเกิดที่บริเวณ BSC Token Hub Protocol ซึ่งเป็นระบบ ‘clearing House’ สำหรับธุรกรรมคริปโตที่ทำงานระหว่างบล็อกเชนต่างๆ กับ Binance ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าว เหล่า Validators (ผู้ยืนยันธุรกรรม) ของ Binance ก็ทำงานกันอย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลของ CoinMarketCap ชี้ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เหรียญ BNB ตกลงจาก 293 ดอลลาร์ ลงไปบริเวณ 280 ดอลลาร์เลยทีเดียว
ซึ่งจากข้อมูลบนเครือข่ายพบว่าได้มีการโอนเหรียญ BNB ออกจาก BSC Token Hub ที่ทางแฮกเกอร์ไปโจมตีมาจากจาก Cross Chain Swap, Bridge และการกู้ยืม อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ของ Binance ก็ยังคงออกมายืนยันว่าสินทรัพย์ทั้งหมดนั้นปลอดภัย และ ทาง Binance จะเข้าไปช่วยระงับการโอนออกเหล่านั้น
นอกจากนี้ Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดในโลก ยังออกมาขึ้นบัญชีดำบัญชีของวอลเล็ตที่ทางบริษัทคาดว่าจะเป็นของแฮกเกอร์เรียบร้อยแล้ว
อ้างอิง: