ใครพอจะคุ้นเคยกับย่านมหาทุน พลาซ่า อยู่บ้าง อาจสังเกตว่าตอนนี้ร้านอาหารสเปน El Osito ได้เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งมีไฟนีออนเล็กๆ ตรงกระจกหน้าร้านว่า BBQ และป้ายใหญ่บนหน้าร้านที่เขียนว่า Billy’s Smokehouse (บิลลีส์ สโมกเฮาส์)
บรรยากาศช่วงเทศกาลหน้าร้าน
ใช่แล้ว นี่เป็นร้านใหม่ที่มาเปิดแทนที่ แต่แฟนๆ ร้านอาหารสเปน El Osito สบายใจได้ เพราะเจ้าเก่าก็ไม่ได้ไปไหนไกล เพียงย้ายขึ้นไปเป็นทาปาสบาร์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวขึ้นบนชั้นสองของร้านเดิม พร้อมบาร์เครื่องดื่มที่เน้นเหล้าจินหลากหลายเป็นพิเศษ
ข่าวดีอีกอย่างคือเจ้าของร้านก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เชฟชาวอเมริกันอย่าง บิลลี เบาทิสตา (Billy Bautista) และภรรยา โอ๋-กษมา เหล่าพาณิชย์ เจ้าของร้าน La Monita, El Osito และไทยนิยม ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันนี่เอง ใครเป็นแฟนบ้านนี้อยู่แล้วก็รู้เลยว่าไว้ใจได้ ทั้งเรื่องรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ
ภาพผลงานของศิลปินช่างสัก ลูค ซาโตรุ
The Vibe
ตัวร้านยังคงเน้นบรรยากาศสบายๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ทั้งผนังสีปูน โต๊ะเก้าอี้คละกันให้เลือกนั่งตามชอบ ด้านในสุดของร้านมีเคาน์เตอร์ครัวที่พอให้เราได้เห็นหน้าค่าตาเชฟยามขะมักเขม้นก่อนเสิร์ฟอาหาร ตรงกลางมีโต๊ะสูงตัวยาว ที่เชื้อเชิญทั้งบรรดาคนที่มาฉลองกลุ่มใหญ่และใครที่พร้อมแชร์โต๊ะเพื่อพบเพื่อนใหม่เสมอ ด้านผนังได้ลายไฟและโทนสีแดงที่เพิ่มความร้อนแรงให้เข้ากับบรรยากาศสโมกเฮาส์ โดยมีภาพเขียนชิ้นใหญ่ฝีมือศิลปินช่างสักคนดังอย่าง ลูค ซาโตรุ (Luke Satoru) แห่งร้านสัก Black Pig Tattoo แสดงสัญลักษณ์อยู่ทางขวามือของร้าน
กลิ่นควันอ่อนๆ ลอยชวนหิวทั่วร้าน
The Concept
สโมกเฮาส์ของบิลลีไม่ใช่แบบอเมริกันจ๋า แต่ว่าก็เป็นอเมริกันแท้ ซึ่งมีที่มาจากความชอบปิ้งย่างและทำอาหารจากเนื้อของเขา ที่ไม่ว่าโดยส่วนตัวเราจะไปปาร์ตี้ที่ร้านเม็กซิกันอย่าง La Monita กี่ปี ก็จะเจอพี่บิลลีประจำสเตชันปิ้งย่างเรื่อยมา
เชฟบิลลีนำรสอาหารบาร์บีคิวหอมกลิ่นควันตำรับอเมริกันมาเสิร์ฟใส่จาน
จนเมื่อเขาคิดจริงจังทางนี้ เตารมควันหลายตัวก็ถูกตั้งที่ชั้นบน ก่อนที่เชฟบิลลีจะทดลองจนได้สูตรเฉพาะของเขาออกมา ทั้งเครื่องเทศหมักซี่โครงหมูที่เขาเรียกว่าเป็น ‘mud rub’ เครื่องเทศผสมที่อยู่ตรงกลางระหว่างผงเครื่องเทศแห้งแบบ ‘dry rub’ กับการหมักแบบเปียก และหลังจากนวดหมักด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมูหรือเนื้อจะถูกนำเข้าเตารมควัน ให้ไม้และอุณหภูมิทำงานประสานกันช้าๆ นานหลายชั่วโมง ตามแบบฉบับการรมควันแท้ๆ ที่ไม่ผ่านทางลัดอย่างการซูส์วีด์ (sous vide) เห็นได้ชัดเจนจากขอบสีชมพูของตัวเนื้อที่สุกแล้ว พร้อมสัมผัสได้จากรสชาติและกลิ่นการรมควันที่โอบรัดเนื้อ ตามติดด้วยความนุ่มของเนื้อที่หลุดออกจากกระดูกโดยง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของกรรมวิธีการปรุงแบบนี้นั่นเอง
พาสต้าโฮมเมดกับพาสตรามีหอมๆ
แต่ที่ว่าไม่ใช่แบบอเมริกันจ๋า ก็เพราะไม่ได้มีแค่บรรดาสารพัดเนื้อสัตว์ที่จะเข้าไปผ่านการรมควันจนหอมอร่อยเท่านั้น แต่เขายังนำอาหารทะเลอย่างหอยแมลงภู่ หอยตลับ ปู ปลา และหอยเชลล์ไปรมควันด้วย และเพื่อความสดใหม่ อาหารทะเลบางอย่างจึงบริการเมื่อสั่งล่วงหน้าเท่านั้น
สารพันเครื่องเคียงสร้างสรรค์ไว้จิ้มกันได้เป็นหมู่คณะ
The Dishes
เครื่องเคียงที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่โคลสลอว์ คอร์นเบรด และเฟรนช์ฟรายส์แบบที่พบได้ตามร้านแนวสโมกเฮาส์ทั่วไปเท่านั้น แต่จัดเต็มมาแบบคละสัญชาติให้สมกับที่เชฟมาจากรัฐที่อุดมไปด้วยอาหารหลากหลายอย่างแคลิฟอร์เนีย ทั้งโคลสลอว์แบบสไตล์คันทรีหรือลูกทุ่งเสียหน่อย ที่หั่นผักแบบหยาบพอดีคำให้เคี้ยวได้เป็นชิ้นๆ สลัดมันฝรั่งแบบญี่ปุ่น และสลัดข้าวโพดย่างที่ทั้งสดชื่นและหอมเครื่องเทศสไตล์เม็กซิกัน ทั้งยังมีบัตเตอร์มิลค์บิสกิตสูตรของคุณแม่เชฟ ที่มีเนื้อร่วนพิเศษแต่ยังคงความหอมฉ่ำเนย (อย่างละ 50 บาท) เสิร์ฟเคียงคู่กับซอสอย่าง ซอสบาร์บีคิวผสมกาแฟเอสเพรสโซ ซอสพริกเขียวแบบเม็กซิกัน และมัสตาร์ดแบบแคโรไลนา
บรรยากาศโปร่งโล่งสบายภายในร้าน
ถ้ามากันหลายคน เราแนะนำให้สั่ง Chef’s Choice Premium Platter (2,700 บาท) ที่มีทั้งซี่โครงหมู ซี่โครงเนื้อแบล็กแองกัส เนื้อวากิวส่วนบริสเก็ตและไส้กรอกรมควัน เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงและซอส จะได้ชิมหลายๆ อย่างในจานเดียว
(บน) สารพันบาร์บีคิว ซี่โครงหมู ซี่โครงแบล็กแองกัส วากิวและไส้กรอกรมควัน,
(ล่าง) เมนูปลาย่างหอมๆ ก็เหมาะกับสายเฮลตี้
ส่วนใครฉายเดี่ยวที่ร้านก็มีทั้ง แซนด์วิช (340-480 บาท) และ พาสต้าโฮมเมด (320-480 บาท) ที่มาพร้อมกับพาสตรา มีเนื้อหมักรมควันที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงตั้งแต่เสิร์ฟครั้งแรกในร้าน El Osito ขายอยู่จนถึงปัจจุบัน
เปลี่ยนรัมในโมฮิโต้เป็นเบอร์บอนแบบแดนมะกัน เพิ่มกลิ่นไม้ให้หอมไปอีก
The Drinks
ถ้าพูดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วิสกี้ดูจะเป็นของคู่กันกับอาหารสไตล์นี้ ใครที่มีเครื่องดื่มโปรดอยู่แล้วก็เลือกเอาจากที่บาร์ได้เลยว่าชอบแบบไหน โดยที่นี่จะเน้นค็อกเทลจากเหล้าวิสกี้และเบอร์เบินเป็นหลัก เชฟบิลลีแนะนำ Bourbon Mojito (390 บาท) ที่เปลี่ยนจากเหล้ารัมมาเป็นเบอร์เบิน มั่นใจได้ว่าทั้งสดชื่นและหอมเข้ม หรือถ้าใครเป็นสายเบียร์ก็มีทั้งเบียร์สดและเบียร์ขวดหลากหลายให้เลือกกัน
Billy’s Smokehouse
Open: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-23.00 น.
Address: มหาทุน พลาซ่า ถ.เพลินจิต กรุงเทพฯ
Budget: 500-1,000 บาท
Contact: โทร. 0 2651 4398
Page: www.facebook.com/billysbkk
Map:
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์