×

ความนิยมไบเดน-ทรัมป์ถดถอย สร้างความหวังให้ผู้สมัครอิสระในการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

โดย THE STANDARD TEAM
18.11.2023
  • LOADING...

ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากต้องการผู้สมัครอายุน้อยกว่าและมีข้อขัดแย้งน้อยกว่าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 แต่ในความเป็นจริงนั้นมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะเจอผู้สมัครหน้าเดิมๆ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งจะเป็นการรีแมตช์การเลือกตั้งเมื่อปี 2020 

 

ความเป็นไปได้ที่ทรัมป์และไบเดนจะลงชิงชัยกันอีกครั้งนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังถูกรุมเร้าไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางการเมืองที่รุนแรง ไปจนถึงความขัดแย้งเกี่ยวกับการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนเพื่อป้องกันตนเอง ท่ามกลางกระแสเรียกร้องอย่างกว้างขวางให้มีผู้นำสหรัฐฯ รุ่นใหม่

 

ผลสำรวจของ Gallup เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่มากกว่า 63% ต่างเห็นพ้องตรงกันว่าพรรครีพับลิกันและเดโมแครต “ทำผลงานแย่มาก” ในการเป็นผู้แทนของคนอเมริกัน และด้วยเหตุนี้จึง “จำเป็นต้องมีพรรคหลักพรรคที่สาม” ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมา 7% จากปีที่แล้ว และสูงที่สุดนับตั้งแต่ Gallup ถามคำถามนี้ครั้งแรกในปี 2003

 

ไบเดนและทรัมป์ต่างเผชิญผู้ท้าชิงในการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคของตนเอง แต่คาดว่าท้ายที่สุดทั้งคู่จะได้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวในปี 2024 แม้ว่าในฝั่งของเดโมแครตนั้นจะมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับอายุของไบเดน ส่วนในฟากพรรครีพับลิกันมีความกังวลเกี่ยวกับคดีความฟ้องร้องของทรัมป์

 

ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยใหม่ ยังไม่เคยปรากฏว่ามีผู้สมัครจากพรรคเล็กหรือผู้สมัครอิสระคนใดชนะการเลือกตั้งมาก่อน แม้ว่าบางปีพวกเขาจะสามารถขโมยคะแนนจากผู้สมัครพรรคใหญ่ได้มากเกินคาดก็ตาม

 

ยกตัวอย่างเช่นในปี 1992 รอสส์ เพอรอต มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ได้รับคะแนนเสียง 19% ส่งผลให้ บิล คลินตัน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต มีชัยเหนือ จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ซึ่งหวังรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย ขณะที่ในการเลือกตั้งปี 2000 ราล์ฟ เนเดอร์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้รับคะแนนเกือบ 3% ในรัฐฟลอริดา ซึ่งมากพอที่จะแย่งคะแนนจาก อัล กอร์ ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และเป็นการหยิบยื่นชัยชนะในรัฐดังกล่าว รวมไปถึงการคว้าเก้าอี้ทำเนียบขาวให้กับจอร์จ ดับเบิลยู. บุช 

 

ด้านผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ Reuters/Ipsos แสดงให้เห็นว่า โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ทนายความด้านสิ่งแวดล้อม นักรณรงค์ต่อต้านวัคซีน และหลานชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่ประกาศตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามอิสระเมื่อเดือนตุลาคม อาจคว้าคะแนนเสียง 20% ในการแข่งขันกับไบเดนและทรัมป์

 

เคนเนดีได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรณรงค์ทางการเมือง ‘American Values 2024’ ซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 17 ล้านดอลลาร์จากผู้บริจาคกระเป๋าหนักหลายคน รวมถึงอดีตผู้สนับสนุนทรัมป์ด้วย

 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา American Values 2024 จัดกิจกรรมหาเสียงโดยมุ่งเป้าไปที่ผู้มีสิทธิออกเสียงผิวสีและเชื้อสายละตินในย่านใจกลางเมืองแมนฮัตตัน ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ประมาณ 40 คน โดยหลายคนในจำนวนนี้เชื่อว่าเคนเนดีจะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ

 

พรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับการลงชิงตำแหน่งของเคนเนดี พรรคเดโมแครตกลัวว่านามสกุลดังของเขาและนโยบายสนับสนุนสิ่งแวดล้อมจะโดนใจผู้สนับสนุนพรรคบางส่วน ขณะที่พรรครีพับลิกันเกรงว่าการรณรงค์ต่อต้านวัคซีนของเคนเนดีอาจแย่งคะแนนสนับสนุนบางส่วนไปจากพรรคเช่นกัน

 

ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos และผลสำรวจอื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่า เคนเนดีแย่งคะแนนจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้พอๆ กัน 

 

โทนี ไลออนส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง American Values 2024 บอกกับ Reuters ว่า ไม่ใช่แค่ไบเดนหรือทรัมป์เท่านั้นที่ควรกลัวเคนเนดี แต่เคนเนดียัง “เป็นอันตรายต่อระบบสองพรรคซึ่งไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือผู้คนในห้องนี้” ไลออนส์กล่าวในกิจกรรมหาเสียงที่แมนฮัตตัน 

 

สตีเวน เฉิง โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ว่า “โพลแสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์บดขยี้ไบเดน แม้ว่าจะมีผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งในระดับประเทศและในรัฐสมรภูมิ”

 

ด้านทีมหาเสียงของไบเดนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น และปล่อยให้การวิพากษ์วิจารณ์เป็นหน้าที่ขององค์กรภายนอก เช่น Third Way ซึ่งแสดงความกังวลว่าการประกาศลงชิงตำแหน่งของผู้สมัครอิสระอาจทำให้ทรัมป์เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้

 

ภาพ: Brendan Smialowski / Frederic J. Brown / AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising