บียอนเซ่ โชว์พลังคุณแม่อย่างเต็มตัว เพราะเธอเพิ่งได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue อเมริกา ฉบับเดือนกันยายน ฉลองปีที่ 126 ของนิตยสารเบอร์หนึ่งแห่งวงการแฟชั่น ซึ่งเธอก็สร้างประวัติศาสตร์โดยเลือก ไทเลอร์ มิตเชลล์ ช่างภาพรุ่นใหม่มาแรงเป็นคนถ่าย และเป็นช่างภาพผิวสีคนแรกที่มีโอกาสถ่ายเล่มทรงเกียรติที่ถือว่าสำคัญสุดแห่งปี
แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานอย่างหนาหูออกมาว่า แอนนา วินทัวร์ บรรณาธิการบริหารของนิตยสารยกสิทธิ์ทั้งหมดให้กับบียอนเซ่ ในการถ่ายทำปกร่วมกับ Vogue ครั้งนี้แบบไม่มีข้อยกเว้น นั่นหมายความว่า เธอมีสิทธิ์ที่จะควบคุมการถ่ายทำปกนิตยสารเซตถ่ายแบบในเล่ม ไปจนถึงข้อความที่จะใช้พาดหัวบนปกนิตยสารฉบันนี้ แต่แอนนาก็เพิ่งให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Business of Fashion ว่าไม่ใช่ความจริงทั้งสิ้น เพราะคอนเซปต์ของการถ่ายแบบครั้งนี้เป็นของ รอล มาร์ติเนซ ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Vogue ที่มีการเสนอให้ตัวบียอนเซ่เอง และคนที่มาทำสไตลิงให้ก็คือ ทอนน์ กู๊ดแมน อดีตแฟชั่นไดเรกเตอร์ของ Vogue ที่เพิ่งปรับตำแหน่งเป็นคอนทริบิวติงเอดิเตอร์เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
ส่วนการที่ไทเลอร์ได้มาถ่ายปกในครั้งนี้ ก็เพราะทาง Vogue ได้ลิสต์รายชื่อช่างภาพที่คิดว่าเหมาะสมกับการถ่ายปกในครั้งนี้ให้บียอนเซ่เลือก ซึ่งเธอก็ตัดสินใจให้เป็นไทเลอร์ เพราะเขาเป็นช่างภาพในสารบบของ Parkwood Entertainment บริษัทที่บียอนเซ่เป็นเจ้าของ และเคยถ่ายน้องสาว โซลอนจ์ โนวส์ มาแล้ว ส่วนกับทาง Condé Nast ที่เป็นเจ้าของ Vogue ทางไทเลอร์ก็เคยถ่ายปก Teen Vogue เล่มดิจิทัลของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
มากไปกว่านั้น ไทเลอร์มีดีกรีเป็นถึงช่างภาพที่เคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Marc Jacobs และ Givenchy มาแล้ว เขายังเคยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับผลงานการถ่ายภาพที่โดดเด่นเรื่องการใช้สี และสื่อให้เห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองไว้ว่า “ผมนำเสนอความเป็นคนผิวสีด้วยวิธีที่จริงและบริสุทธิ์ มันมีมุมมองที่จริงใจอยู่ในรูปภาพเหล่านั้น”
ไทเลอร์ มิตเชลล์ ในสตูดิโอของเขา
Photo: www.nytimes.com
ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษของฉบับเดือนกันยายนในครั้งนี้คือ บียอนเซ่ได้ร่วมมือกับผู้หญิงนักเขียนผิวสี โคลเวอร์ โฮป เล่าถึงประสบการณ์และมุมมองผ่านตัวบียอนเซ่เอง เกี่ยวกับการเป็นแม่ การตั้งครรภ์ ความกดดันทางสังคม รูปร่างหน้าตาหลังคลอดลูก การใช้อำนาจของเธอเพื่อเปิดประตูและโอกาสให้กับคนผิวสีคนอื่นๆ เรื่องราวประวัติรากฐานของครอบครัว อิสระในการทำงาน สิ่งที่เธออยากปลูกฝังในลูกทั้งสามคนของเธอ และความสำคัญของผลงาน ทั้งที่งานเทศกาล Coachella เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการทัวร์คอนเสิร์ต OTR II กับสามี เจย์ ซี ขณะนี้
อย่างไรก็ตามแต่ ปรากฏการณ์นี้นับเป็นเรื่องที่ขัดต่อระบบการทำงานของนิตยสาร Vogue ก่อนหน้านี้มาตลอดเพราะแอนนา วินทัวร์ จะเคร่งครัดเรื่องภาพลักษณ์ของแมกกาซีนอย่างมาก และเธอจะเป็นคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม และนางแบบที่จะได้มาขึ้นปก Vogue โดยนางแบบเหล่านั้นก็ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรมากเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นนิตยสาร Vogue ฉบับเดือนกันยายน หรือ September Issue ที่ตามธรรมเนียมแล้วจะเป็นฉบับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี (ถึงขั้นที่มีภาพยนตร์สารคดีปี 2009 ในชื่อ The September Issue ที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้) การที่บียอนเซ่ได้มีส่วนมาควบคุมหน้าตาของ Vogue ฉบับเดือนกันยายนนี้จึงเปรียบเสมือนการแสดงพลังอำนาจของควีนบีจริงๆ
แม้สื่อจะตื่นเต้นกับการที่บียอนเซ่ได้ขึ้นปก และแสดงพลังตัวแทนจากกลุ่มคนผิวสีอย่างภาคภูมิใจ แต่ข้อเท็จจริงที่ Vogue US ไม่เคยจ้างช่างภาพผิวสีมาก่อนเลย ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน
Jamal Nxedlana ตัวแทนศิลปินที่กำลังจะมีงานแสดงผลงานร่วมกับ ไทเลอร์ มิตเชลล์ ออกความเห็นกับกรณีนี้ว่า “ผมว่ามันสร้างอิมแพ็กได้ดีที่มีการออกมาทำลายกรอบเดิมๆ จริงๆ แล้วหนังสือพิมพ์ TimesLIVE ในแอฟริกาใต้ก็ได้พูดถึงประเด็นที่ว่ามีแมกกาซีนรุ่นใหญ่กี่เล่มที่เคยถ่ายทอดผลงานความคิดสร้างสรรค์ของคนผิวสีบ้าง นั่นล่ะ เราจึงต้องการการเปลี่ยนแปลง”
ไม่ใช่แค่บียอนเซ่เท่านั้นที่สร้างปรากฏการณ์บนปก Vogue ฉบับเดือนกันยายน เพราะนิตยสาร Vogue ฉบับอังกฤษ (British) ก็ได้จ้างตัวแม่อีกคนอย่างริฮานนา มาเป็นนางแบบขึ้นปก ซึ่งเธอก็เป็นนางแบบผิวสีคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue ฉบับอังกฤษตั้งแต่ที่ Vogue ฉบับอังกฤษมีมาถึง 102 ปี ซึ่งต้องขอบคุณการขึ้นแท่นของ เอ็ดเวิร์ด เอนนินฟุล บรรณาธิการผิวสีคนแรก และคนล่าสุดของ Vogue ฉบับอังกฤษ
SEPTEMBER ISSUE!!! @britishvogue
I’m so honored to be on the cover of your first September issue with British Vogue @edward_enninful Thank you for considering me! pic.twitter.com/ur3UlWoIXf— Rihanna (@rihanna) July 31, 2018
สำหรับแฟนๆ ของคุณแม่ริฮานนา และคุณแม่บียอนเซ่ ก็ต้องเตรียมหาซื้อ Vogue ฉบับเดือนกันยายนทั้งสองเล่มกันให้ดี เพราะไม่แน่นิตยสารทั้งสองฉบับนี้อาจจะกลายเป็นของสะสมชั้นดีในหน้าประวัติศาสตร์แมกกาซีนแฟชั่นเลยก็เป็นได้
ติดตามผลงานภาพถ่ายของ ไทเลอร์ มิตเชลล์ ได้ที่อินสตาแกรมของเขา @tylersphotos
