×

กางสถิติ ‘ภาวะหมี’ ในตลาดคริปโต แต่ละรอบลงลึกแค่ไหน ใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะกลับมา

15.06.2022
  • LOADING...
ภาวะหมี

ท่ามกลางปัจจัยภายนอกที่รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี โอกาสเข้มงวดนโยบายการเงินเชิงรุกและการขึ้นดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งผลให้สินทรัพย์ทั่วโลกร่วงลงอย่างรุนแรง ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเคลื่อนไหวขาลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตลาดหมีจะนานแค่ไหน และมีโอกาสปรับตัวลงได้อีกเท่าไร วันนี้ THE STANDARD WEALTH ได้รวบรวมสถิติมาให้ดูกัน

 

ทำไมราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างหนัก

 

การร่วงลงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและ Bitcoin มาจากปัจจัยภายนอกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนจากการล็อกดาวน์โควิด และโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซนล้วนส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้นและตลาดคริปโต สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ S&P 500 เข้าสู่ตลาดหมีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากดัชนีร่วงลงระดับสูงสุดตลอดกาลถึง 21% ขณะที่ Bitcoin ร่วงลงมากถึง 70% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 67,167 ดอลลาร์ สู่ระดับ 21,036 ดอลลาร์ ณ เวลา 14.40 น.

 

ตลาดหมีปี 2011-2012

 

หลังจากที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2009 Bitcoin เข้าสู่ตลาดหมีครั้งแรกเมื่อปี 2011 ซึ่งเวลานั้นราคาได้ลดลงจาก 29 ดอลลาร์ สู่ 2 ดอลลาร์ ภายในเวลา 5 เดือน ราคา Bitcoin ร่วงลงมากถึง 93% และใช้เวลานานกว่าหนึ่งปีครึ่งเพื่อปรับตัวขึ้นครั้งใหม่ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก BTC มากนัก

 

 

ตลาดหมีปี 2014-2016

 

Bitcoin ดิ่งลงจาก 1,135 ดอลลาร์ ในวันที่ 4 ธันวาคม 2013 สู่ระดับ 175 ดอลลาร์ ในวันที่ 14 มกราคม 2015 ซึ่งเป็นการลดลงถึง 85% จากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุด เหตุการณ์สำคัญในช่วงนั้นคือการล่มสลายของ Mt. Gox เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีส่วนแบ่งปริมาณการซื้อขายถึง 80% ของการซื้อขายคริปโตทั้งโลก ถูกแฮ็ก Bitcoin ไปจำนวนกว่า 650,000 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.365 หมื่นล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดแย่ลงอย่างมาก ก่อนที่ราคาจะปรับตัวมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในปี 2017

 

 

ตลาดหมีปี 2018-2020

 

ในช่วงเวลานั้นราคา BTC ได้ร่วงลงจาก 19,640 ดอลลาร์ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2017 สู่บริเวณ 3,185 ดอลลาร์ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2018 ซึ่งเป็นการร่วงลงถึง 84% และตามด้วยการเคลื่อนไหว Sideways อีกเป็นเวลาหลายเดือน การปรับตัวลงครั้งใหญ่ยังเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงปี 2020 จากความหวาดกลัวการแพร่ระบาดของโควิดในเดือนมีนาคม 2020 เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเรียกว่า Black Thursday เนื่องจากราคา Bitcoin ดิ่งลงจาก 12,000 ดอลลาร์ สู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 ราคา BTC ได้พุ่งขึ้นเป็นตลาดกระทิงอย่างรุนแรงหลังจากนั้นไม่กี่เดือน

 

 

ตลาดหมีรอบปัจจุบัน 

 

สำหรับตลาดหมีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 67,167 ดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 สู่ 20,515 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียน ซึ่งเป็นการร่วงลงมากกว่า 70% เลยทีเดียว แม้จะไม่มีใครรู้ว่าตลาดขาลงจะดำเนินต่อไปนานแค่ไหน หรือราคาจะปรับตัวลงไปอีกเท่าไร แต่จากสถิติที่เกิดขึ้นในอดีตก็เป็นไปได้หากตลาดหมีจะดำเนินต่อไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ Halving ครั้งต่อไปในปี 2024

 

 

สมมติฐานที่ว่าราคา Bitcoin มักจะกลับมาเป็นตลาดขาขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ Halving นั้น เคยเกิดเพียงสองครั้งในอดีต ซึ่งสิ่งนี้อาจไม่ได้รับประกันว่าการเกิด Halving ครั้งต่อไป ตลาดจะต้องเคลื่อนไหวในรูปแบบเดียวกัน นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูลและวางแผนในการลงทุนอย่างรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising