×

‘BCAP’ แนะซื้อ 2 ซีรีส์กองทุน ‘SSF-RMF’ กระจายเสี่ยงช่วงตลาดผันผวนสูง-รับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 65

13.12.2022
  • LOADING...

บลจ.บีแคป ประเมินการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า ยังมีความผันผวนสูง แม้เงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุด เหตุธนาคารกลางยังคงนโยบายการเงินตึงตัว กดดันเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียน ส่งผลต่อภาวะตลาด แนะลงทุนแบบการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ พร้อมชูลงทุน 2 ซีรีส์กองทุน ‘SSF-RMF’ เพิ่มโอกาสผลตอบแทน และยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2565 

 

เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP เปิดเผยว่า เดือนธันวาคม นับเป็นช่วงเทศกาลวางแผนภาษี โดยเฉพาะช่วงนี้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์หลายประเภทมีความผันผวน และปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากผลของเงินเฟ้อ และการขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คุณภาพดีที่มีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีปี 2565 ซึ่งเหลือเวลาลงทุนอีกไม่ถึงเดือน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ทั้งนี้ บลจ.บีแคป แนะนำ ซีรีส์กองทุนเปิด บีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) ทั้ง 5 กอง และซีรีส์กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF) ซึ่งทั้ง 2 ซีรีส์กองทุนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนในด้านการลงทุน และการวางแผนรับสิทธิประโยชน์ทางด้านการลดหย่อนภาษี

 

โดยกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF) ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแผนการเกษียณของแต่ละช่วงวัย และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร ลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพ และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง

 

ส่วนกองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ และลงทุนผ่านกองทุนรวมและ ETF ทั่วโลก ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูง

 

กองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) มีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก กระจายการลงทุนในหลากหลายทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทรัพย์สินทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงทองคำ โดยกองทุนจะลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทุน ETF ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูง และไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อสะสมผลตอบแทนที่ได้ลงทุนต่อเนื่อง ส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

กองทุนบีแคป โกลบอล เวลท์ เพื่อการออม (BCAP-GW SSF) มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศในหลากหลายสินทรัพย์ ที่คัดสรร ETF ทั่วโลกเกือบ 70,000 ตัว มาจัดเป็นพอร์ตการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีทีมผู้จัดการกองทุนกว่าสิบชีวิตดูแลปรับพอร์ตให้ตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด โดยมี 5 รูปแบบการลงทุนให้เลือกตามสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงคือ 10%, 25%, 50%, 75% และสูงสุดที่สัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยง 90% 

 

สำหรับกองทุน BCAP Target Date Series มีจุดเด่นคือเป็นกองทุน RMF ที่ปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องตามช่วงอายุ โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามปีที่จะเกษียณอายุผ่าน 3 ทางเลือกกองทุน ได้แก่ BCAP-2030 RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2568-2578, BCAP-2040 RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2579-2588 และ BCAP-2050 RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี 2589-2598  ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสินทรัพย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในการปรับพอร์ตการลงทุนและติดตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลกับตลาดที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง

 

“กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายลงทุนเหมือนกับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล เวลท์ (BCAP Global Wealth: BCAP-GW) คือมุ่งเน้นลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก แต่ต่างกันที่แนวทางการบริหารทรัพย์สิน ซึ่งกองทุน BCAP Global Wealth เป็นเหมือนพอร์ตการลงทุน ที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตามระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ ขณะที่กอง RMF นี้กำหนดสัดส่วนของแต่ละทรัพย์สินให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ลงทุน หรือเป้าหมายของผู้ลงทุน” เมธ์วดีกล่าว

 

เมธ์วดีกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการวางแผนเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่คนแต่ละช่วงอายุมีสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม และความเสี่ยงที่รับได้แตกต่างกัน การมีกองทุนที่จัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับแต่ละช่วงอายุ และสอดคล้องกับแผนการเกษียณจึงเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน สำหรับผู้ที่อายุยังน้อย มีเวลาในการลงทุนมากควรเน้นลงทุนในทรัพย์สินเสี่ยง เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว ส่วนผู้ที่ใกล้เกษียณอายุต้องเพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินมั่นคง เพื่อเน้นรักษาเงินต้น ซึ่งรูปแบบการลงทุนดังกล่าวถูกออกแบบผ่านกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ ตอบโจทย์ทุกวัย

 

สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร โดยกองทุน RMF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน และวงเงินลงทุนได้ไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องนับรวมกองทุนเพื่อการออม (SSF) วงเงินปกติ และการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ โดยต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่ซื้อครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนได้เมื่อถือจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์

 

ในส่วนของกองทุน SSF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน และวงเงินลงทุนได้ไม่เกิน 200,000 บาท และต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปี (นับแบบวันชนวัน)

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising