×

เอกนรี วชิรบรรจง ถอดบทเรียนความสำเร็จ ‘กรงกรรม’ จากสิ่งที่ ‘พ่อแม่’ สร้างและทำให้เห็นในกองถ่าย

26.04.2019
  • LOADING...
เอกนรี วชิรบรรจง

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • บีบี-เอกนรี วชิรบรรจง คือลูกสาวและทายาทคนโตของ พงษ์พัฒน์-ธัญญา วชิรบรรจง โดยเธอเรียกบทบาทของตัวเองในกองถ่ายละคร กรงกรรม ที่กำลังเป็นกระแสพร้อมเสียงชื่นชมอยู่ในเวลานี้ว่าเป็นตำแหน่ง ‘มินิโปรดิวเซอร์’
  • บีบีจบการศึกษาที่ RMIT University คณะ Fine Art Photography จากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้งานเพื่อเตรียมมาสานต่องานของพ่อแม่ที่เป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดีให้กับเธอมาตลอด ขณะเดียวกัน ในแง่งามหลังจากที่พ่อล้มป่วย เธอก็มองเห็นจุดอ่อนในงานเบื้องหลังที่คนรุ่นพ่อควรจะปรับด้วยเช่นกัน
  • ตลอด 8 เดือนของการถ่ายทำละคร กรงกรรม ถือเป็นการเข้ามาทำงานในกองถ่ายของเธออย่างเต็มตัวเป็นเรื่องแรก และเธอเองก็มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้มากมาย โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับผู้อาวุโส รุ่นพ่อ รุ่นพี่ที่เคยร่วมงานกับผู้เป็นพ่อและแม่มาอย่างยาวงาน
  • จากความสำเร็จของละคร เธอแสดงทัศนะว่า “กรงกรรม เป็นละครที่สะท้อนความเป็นมนุษย์สูง ละครทุกเรื่องของคุณพ่อจะแฝงคำสอนและข้อคิดต่างๆ ไว้ให้กับคนดู แต่ในเวลาเดียวกันคุณพ่อก็อยากให้คนดูสนุกด้วย”  

 

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

ถ้าบอกว่า กรงกรรม คือละครที่กำลังโด่งดังและเป็นกระแสมากที่สุดในโมงยามนี้ก็คงไม่ผิด แต่ในเวลาเดียวกัน ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดี อีกหนึ่งแง่มุมที่ บีบี-เอกนรี วชิรบรรจง ลูกสาวคนโตและทายาทซึ่งเพิ่งเริ่มต้นเข้ามาสานต่องานเบื้องหลังของพ่อแม่ในตำแหน่ง ‘มินิโปรดิวเซอร์’ ได้เรียนรู้กลับไม่ใช่แค่เพียงทักษะการจัดการกองถ่าย แต่มันกลายเป็นบทเรียนแห่งความสำเร็จที่แลกมาด้วยอาการป่วยแบบกะทันหันของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้เป็นพ่อ ขณะกำกับละครอยู่กลางกองถ่าย กรงกรรม จนต้องส่งตัวไปรักษาด่วนที่โรงพยาบาล และจุดนั้นเองที่เป็นอีกบทเรียนให้เธอได้รู้ว่านอกจาก ‘งานถ่ายละครจะเป็นศิลปะร่วม’ ดังคำสอนที่พ่อมักจะพูดไว้เสมอ บางที ‘ศิลปะของการบาลานซ์ระหว่างงานและชีวิต’ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เธออยากสื่อสารกลับไปถึงผู้เป็นพ่อด้วยเช่นกัน

หนึ่งวันในกองถ่าย เราไม่รู้หรอกว่าจะเจออะไรบ้าง ฝนฟ้าอากาศ ลมแรง ถ่ายไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นถ่ายในอินดอร์ สิ่งเหล่านี้เราไม่มีทางรู้เลย หน้าที่นี้มันหนักจนคุณพ่อล้มป่วย ขณะเดียวกันเราก็มองว่างานผู้จัดละครเป็นอีกบทบาทที่ท้าทาย ต้องเป็นนักจัดการ ต้องเป็นนักประสาน ต้องไปดีลกับผู้หลักผู้ใหญ่ของสถานี  

ก่อนเข้ามารับงานในตำแหน่งที่คุณเรียกมันว่า ‘มินิโปรดิวเซอร์’ คุณสนใจงานเบื้องหลังละครตั้งแต่เมื่อไร สนใจมันแค่ไหน

ความจริงบีเข้ากองถ่าย คุ้นเคยกับกองถ่ายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ เหมือนเราซึมซับไปเรื่อยๆ เราคุ้นเคยกับทุกคนในกองถ่ายเหมือนเป็นคนในครอบครัว เพียงแต่ กรงกรรม เป็นเรื่องแรกที่คุณแม่ (ธัญญา วชิรบรรจง) ได้มอบหน้าที่ให้กับเราในการทำหน้าที่คล้ายๆ มินิโปรดิวเซอร์ให้กับบริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด หน้าที่ก็มีหลายอย่างตั้งแต่ออกกองถ่ายทำยันรายละเอียดหลังละครถ่ายจบ ที่สำคัญคือ กรงกรรม เป็นละครที่ค่อนข้างยาว ถ่ายทำกัน 8-9 เดือน ทำงานกันอย่างเข้มข้น มันคือการที่เราไปอยู่กับชาวบ้านในหมู่บ้านของตำบลหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ได้เห็นชีวิตจริงๆ ได้สัมผัสวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันน่าสนใจ

 

ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่อง กรงกรรม เพราะเป็นละครที่ให้อะไรกับคนดูมากๆ กรงกรรม เป็นละครที่สะท้อนความเป็นมนุษย์สูง ละครทุกเรื่องของคุณพ่อจะแฝงคำสอนและข้อคิดต่างๆ ไว้ให้กับคนดู แต่ในเวลาเดียวกันคุณพ่อก็อยากให้คนดูสนุกด้วย  

 

ที่สำคัญมันเป็นละครที่สะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับบุญกรรมทั้งหมด กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง ทำดีกันไว้เถอะ การให้อภัยมันเป็นพื้นฐานง่ายๆ ที่คนเราควรทำมากที่สุด เพราะตอนนี้ทุกอย่างในสังคมเต็มไปด้วยการแข่งขัน มีชนชั้น แบ่งฐานะ ซึ่งตัวบีเองไม่ชอบ เพราะเราเคยไปเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ที่นั่นทุกคนเท่าเทียมกัน คนเก็บขยะเงินเดือนเท่าพนักงานออฟฟิศ ทุกอาชีพมีเกียรติหมด เพราะทุกคนคือมนุษย์

 

น่าสนใจเหมือนกันนะว่าในเมื่อมีคุณแม่เป็นผู้จัดละคร มีคุณพ่อเป็นผู้กำกับ จริงๆ แล้วคุณชอบทางสายไหนมากกว่ากัน

เมื่อก่อนอยากเป็นผู้กำกับ เพราะเห็นคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ อีกอย่างเรารู้สึกว่างานโปรดิวเซอร์ไม่ใช่สายเรา เพราะเราเป็นสายไม่ออร์แกไนซ์ เป็นสายลุย ชอบคลุกคลีอยู่กับคน แต่พอเราลงมาลุยงานผู้จัดละครจริงๆ ก็พบว่าสนุกไปอีกแบบ เราได้คุมงานอีกแบบซึ่งต่างจากผู้กำกับ ถึงแม้ว่างานผู้กำกับจะหนักกว่าก็เถอะ

 

คุณพ่อเคยให้นิยามของผู้กำกับไทยว่าเป็นนักแก้ปัญหา เราเป็นคนคุมทุกอย่างในกองถ่าย ถ้าคุณแก้ปัญหาไม่ได้ อะไรมันก็จะหลุดไปหมด

 

งานผู้กำกับต้องดีลกับสถานการณ์ที่กองถ่าย ณ ตอนนั้นว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เขียนบทเสร็จมาแล้ว แต่นักแสดงมาไม่ได้ ต้องแก้บท แก้ซีเควนซ์ ฯลฯ ทุกอย่างมันสดหมด คุณต้องแก้ปัญหา ณ จุดนั้นให้ผ่านพ้นไปเป็นซีนๆ เป็นตอนๆ เป็นวันๆ  

 

หนึ่งวันในกองถ่าย เราไม่รู้หรอกว่าจะเจออะไรบ้าง ฝนฟ้าอากาศ ลมแรง ถ่ายไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นถ่ายในอินดอร์ สิ่งเหล่านี้เราไม่มีทางรู้เลย หน้าที่นี้มันหนักจนคุณพ่อล้มป่วย ขณะเดียวกันเราก็มองว่างานผู้จัดละครเป็นอีกบทบาทที่ท้าทาย ต้องเป็นนักจัดการ ต้องเป็นนักประสาน ต้องไปดีลกับผู้หลักผู้ใหญ่ของสถานี  

เวลามีปัญหาเกิดขึ้นในกองถ่าย คุณพ่อจะให้นิ่ง นิ่งไว้ดีที่สุด ทุกคนต้องมีสติ และเขาไม่เลือกข้าง ในกองถ่ายทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในมุมของตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงเป็นคนที่แก้ปัญหาด้วยเหตุผลและความรู้สึกรวมกัน ไม่ใช่ว่าใช้แต่เหตุผลโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น 

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

คุณพ่อบอกว่างานผู้กำกับเมืองไทยคือการเป็นนักแก้ปัญหา แล้วคุณแม่ได้บอกด้วยไหมว่างานผู้จัดละครไทยคืองานแบบไหน  

คุณแม่ไม่ค่อยบอกอะไรนะคะ เขาจะให้ไปจำเอง ไปโดนเอง ไปเจอเอง คุณแม่อยากให้เราคิด แต่ถ้ามีอะไรให้โทรหา แล้วถ้ามันไม่ใช่ เขาจะตบเราเข้าไปให้ถูกที่ถูกทาง

 

เดาว่าการได้เห็นคุณพ่อทำงานมาตั้งแต่เด็ก คุณน่าจะมีภาพจำบางอย่างของผู้กำกับชื่อพงษ์พัฒน์ที่คนอื่นไม่ค่อยเห็นหรือไม่ค่อยรู้  

ช่วงที่โตแล้ว บีมาเห็นคุณพ่อทำงานตอนถ่ายละครเรื่อง รากนครา ใกล้จะเสร็จ เพราะว่าก่อนหน้านี้บีไปอยู่เมืองนอก มันไม่เหมือนกับตอนเด็กๆ ที่อินโนเซนต์สุดๆ อยากเข้ากองถ่ายไปวิ่งเล่นอย่างเดียว จนโตขึ้นพอเรามารู้ด้วยการทำงาน คุณพ่อเป็นคนเก่งและน่านับถือ เพราะเขาให้เกียรติทุกคนในกองถ่าย เวลามีปัญหาเกิดขึ้นในกองถ่าย คุณพ่อจะให้นิ่ง นิ่งไว้ดีที่สุด ทุกคนต้องมีสติ และเขาไม่เลือกข้าง ในกองถ่ายทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในมุมของตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงเป็นคนที่แก้ปัญหาด้วยเหตุผลและความรู้สึกรวมกัน ไม่ใช่ว่าใช้แต่เหตุผลโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น

 

อีกอย่างคือเท่าที่ได้ฟังมาจากทีมงาน เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้กำกับที่นำศิลป์มาบวกกับพาณิชย์ได้อย่างลงตัว แล้วคุณพ่อก็เคยบอกว่าเมื่อก่อนพ่อติสท์จัดเลย ละคร 3 เรื่องแรก ไปย้อนดูได้เลยค่ะ ภาพดำ ภาพมืด ผู้ใหญ่ทางช่องก็ติติงมา

 

จนวันหนึ่งคุณแม่ก็บอกว่าแบบนี้ไม่ได้แล้ว อ๊อฟต้องกลับมาประนีประนอมกับทุกอย่าง ซึ่งนั่นแสดงว่าเขาเคารพเสียงของคนอื่น คุณพ่อฟังทุกคน ไม่ใช่ว่าเอามุมของเขาแค่มุมเดียว ไอเดียกูเจ๋งที่สุด

 

จริงๆ เราอยากลองสัมภาษณ์เขานะ อยากคุยกับเขาในมุมที่ไม่ใช่ลูก เพราะเราเห็นคุณพ่อในมุมที่เป็นลูกมาโดยตลอด เราอยากจะเห็นอีกมุมหนึ่ง เราอยากจะรู้ว่าเขามีมุมอะไรที่หลุดจากสายตาเราไปหรือเปล่า

 

ถ้าถามแบบหมดเปลือกได้ คุณอยากจะถามอะไรผู้ชายชื่อพงษ์พัฒน์

เราไม่อยากเตรียมคำถามส่วนตัวไปถามเขา เพราะเราไม่ได้มีคำถามเฉพาะที่อยากไปถาม แต่เราเป็นคนที่ชอบคุยไปเรื่อยๆ คุณพ่อพูดไปเรื่อยๆ แล้วบีก็นั่งฟังเขาเล่าในมุมที่สบายใจ เราอยากฟังประวัติชีวิตของเขาว่าตอนเด็กๆ เคยผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้  

 

ขอถามแทนแฟนละครเลยแล้วกันว่าพงษ์พัฒน์ทำงานแบบไหน ทำไมตัวเองถึงได้ป่วยหนักขนาดนี้

เขาเป็นคนที่เครียด เครียดแล้วไม่ยอมบอก แต่พอเขาเครียดบีจะรู้เลย บีก็คอยเอาของกิน เอาโน่นนี่ไปให้ เวลาอยู่ในกองถ่าย คนในกองจะสนุก ทุกคนสนุกหมด แต่ความเครียดจะอยู่ที่เขา เพราะเขาคิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบตรงนี้ ถ้าโดนติก็เขา โดนชมก็เขา เขาต้องรับผิดชอบทุกอย่าง คุณพ่อรักลูกน้องมาก

 

ความจริงแล้วไม่ใช่แค่เพราะคุณพ่อเป็นอย่างนี้จึงล้มป่วย บีได้ข่าวว่าผู้กำกับ คนทำงานในกองถ่าย ทุกคนก็เป็น เพราะกองถ่ายละครมันเครียด ต้องอดนอน เสร็จงานสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ตีห้าออกกองอีกแล้ว หรือถ้ามีวันหยุดก็ต้องประชุม มันไม่มีเวลาพักผ่อนจริงๆ

 

แต่หลังจากเจอเคสของคุณพ่อ ตอนนี้บีกับน้องพยายามที่จะปรับระบบในกองถ่ายใหม่ เพราะเราไม่ควรเอาร่างกายไปเสี่ยงกับอะไรที่ไม่คุ้ม คือเรารักงาน เราสนุกกับงาน แต่เราไม่รักตัวเอง แบบนั้นก็ไม่ใช่

เรารู้สึกว่ากองถ่ายมันให้อะไรมากกว่าคำว่ากองถ่าย เพราะในนั้นมันรวมคนที่มีความแตกต่างมาอยู่ในที่เดียวกัน ทั้งทีมศิลป์ ทีมคอสตูม ทีมไฟ ทีมภาพ ขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่กำลังเข้ามาสานต่องานของพ่อแม่ การที่พ่อล้มป่วยคราวนี้ คุณได้บทเรียนอะไรบ้างจากการทำงานของคนรุ่นก่อน

วันหนึ่งพอคุณพ่อมาเจออย่างนี้ เราเตือนทุกคนในทีมเลยนะว่าให้ทำงานกันเบาๆ หน่อย เบาๆ ที่บอกหมายถึงว่าบริษัทยังคงผลิตผลงานอย่างมีคุณภาพ แต่เราจะผลิตโดยมีลิมิตว่าเราเองก็ต้องพัก เพราะว่าเราเป็นคนทำงานแล้วร่างกายก็ต้องพัก ความจริงก็เหมือนสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่พอออกล่าหรือหากินเสร็จแล้วก็ต้องพัก ไม่ใช่ว่าล่าแล้วก็ต้องล่าอีกทั้งคืน  

 

บีอยากให้เคสของคุณพ่อเป็นตัวอย่างให้กับคนในวงการว่าหนักไปไม่ดี เพราะว่าหลังจากที่คุณพ่อป่วย เราก็ได้ยินข่าวมาว่าทีมงานที่เคยรู้จักกันก็เป็นความดัน บางคนเป็นโรคหัวใจ หรือเป็นโน่นเป็นนี่

 

อีกอย่างเคสของคุณพ่อเป็นที่กล่าวถึงเพราะเขาเป็นคนที่แข็งแรงตลอดเวลา บางคนเลยคิดว่าเขาล้มได้ยังไง แต่ความจริงมันคือการสะสม ขึ้นอยู่ที่ว่าระเบิดเวลาจะดังขึ้นมาเมื่อไร บีมองว่าพอมาถึงจุดนี้แล้วเขาต้องหยุดสักแป๊บหนึ่ง แต่พูดไปแบบนี้ ล่าสุดเขาจะออกกองอีกแล้ว  

 

คนเคยทำงานมาทั้งชีวิต วันหนึ่งพอไม่ได้ทำคงไม่ชิน

บีเข้าใจเขานะคะ เพราะถ้าเป็นเราหยุดบ้าง เราก็คงต้องอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพียงแต่เราอยากให้แบ่งเวลา อยากให้แบ่งเบา ขณะเดียวกันก็รู้ว่าอาจจะทำไม่ได้ เพราะการทำงานมีปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งมันยากที่จะประนีประนอม เพราะระบบในวงการบันเทิงไทยเขารันกันแบบนี้มานานแล้ว

 

อันนี้อยากพูดผ่านสื่อ ถ้าคุณพ่อได้อ่านนะ บีอยากให้คุณพ่อแบ่งเบาให้คนอื่นบ้าง ไม่ใช่ว่าเป็นผู้นำแล้วตัวเองต้องเก็บไว้คนเดียว บีเองพยายามที่จะแบ่งเบาภาระจากเขา แต่ด้วยความเป็นลูกผู้หญิง เขาก็จะคิดว่าไม่ได้หรอก เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาต้องรัน แต่บางทีกลับบ้านมาตอนตีสองแล้วยังไปเล่นคอนเสิร์ตต่ออีก แบบนี้มันหนักเกินไปสำหรับเขา

 

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

อาจจะเป็นเพราะว่าเขารักในงานที่ทำ ภูมิใจในทุกเส้นทางที่ตัวเองเป็น

คุณพ่อภูมิใจมาก เพราะเขาอยู่กับตรงนี้มานาน เวลาที่คุณพ่อพูดว่าเขาเป็นทั้งนักร้อง นักแสดง ผู้กำกับ เป็นพ่อ และอีกหลายบทบาท บีรู้สึกว่าเขาภูมิใจ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเขาไป แต่เราอยากให้เขาแบ่งเบาสักนิด 10% หรือ 20% มาให้ครอบครัวบ้าง ครอบครัวอยู่ตรงนี้เพื่อซัพพอร์ตคุณ ไม่ใช่เก็บทุกอย่างไว้คนเดียว

 

สำหรับคนที่กำลังคิดถึงพงษ์พัฒน์อยู่ตอนนี้ มีข่าวสารอะไรใหม่ๆ มาอัปเดตให้ฟังบ้างไหมว่าเขาแข็งแรงดีแล้วหรือยัง

ตอนนี้สบายดีมากค่ะ คุณพ่อสู้มาก ฟิตตัวเองมาก เพราะเขาอยากกลับมารับงาน และเขาไม่หยุดแน่นอน ด้วยความที่เขาไฮเปอร์อยู่แล้ว อย่างวันหยุดเขาก็จะออกกำลังกาย จะกายภาพบำบัด

 

ล่าสุดครอบครัวเราเพิ่งไปเที่ยวกันมา เขาก็สู้มาก ถามว่าเอารถเข็นไหม เดินไม่ไหวหรอก มันไกล แต่สุดท้ายเขาก็เดินเท่าเรานี่แหละ เพราะเขาอยากทำตรงนี้ให้เป็นปกติ ไม่อยากให้เรามองว่าเขาอ่อนแอ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาต้องดูแลทุกคน แต่ความจริงคือเราเรียนจบแล้ว เรากลับมาเพื่อคุณแล้ว คุณพักเถอะ คุณเหนื่อยเพื่อเรามาเยอะแล้ว เราอยากตอบแทนตรงนี้บ้าง

บีนับถือคุณพ่อมากๆ ที่เขาสามารถรวมคนจำนวนมากที่แตกต่าง บางคนมาจากเหนือ บางคนมาจากใต้ แล้วทำงานออกมาเป็นชิ้นเดียวกันตามที่ผู้กำกับคิด งานกองถ่ายจึงเป็นงานที่มีเสน่ห์ และเราอยากเรียนรู้มันต่อไป

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

พงษ์พัฒน์เคยบอกกับผมว่าความสำเร็จในวันนี้มีภรรยาเข้ามาเกี่ยวข้องแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ในฐานะคนในครอบครัวและคนที่ได้เข้าไปคลุกคลีในกองถ่าย คุณคิดว่าจริงแค่ไหน

ตอนแรกบีไม่เข้าใจแม่เลย เพราะเราจะอยู่กับคุณพ่อเยอะ แล้วจะรู้สึกว่าเราเป็นอารมณ์ผู้ชาย ไม่ดราม่า แต่พอเรามาอยู่ในจุดเดียวกับเขาคือในฐานะผู้จัดละคร โอ้โห โคตรเข้าใจเขาเลย เพราะมันเป็นงานที่ต้องแบกรับเยอะมาก แม่ทำได้ยังไงเนี่ย

 

คุณพ่อดูงานหน้าเซต แต่คุณแม่ดูแลทั้งบริษัท ตั้งแต่ในกองถ่าย นอกกองถ่าย ด้านสื่อ การคุยงานกับผู้ใหญ่ ฯลฯ เป็นผู้หญิงที่โคตรสตรอง เป็นผู้หญิงที่เฉียบ เด็ดขาด และนักเลงพอ อย่างที่บอกว่าวันหนึ่งพอมาอยู่จุดเดียวกัน เวลามีปัญหาอะไร เราจะคิดว่าถ้าเป็นแม่ควรทำยังไง  

 

การเป็นลูกสาวของพงษ์พัฒน์และธัญญาที่กำลังเริ่มต้นเข้ามาสานงานต่อ มีความกดดันในระดับไหน

มีคนถามเยอะมากว่ากดดันไหม แต่บีมองว่าเราเป็นคนละคนกัน บีไปก๊อบปี้เขาทั้งหมดไม่ได้หรอก งานศิลปะ แม้คนวาดจะเป็นคนเดียวกัน วาดแต่ละครั้งยังไม่เหมือนกันเลย เช่นกัน ทำละครแต่ละเรื่องก็ออกมาไม่เหมือนกัน อย่างงานคุณพ่อ เปรียบเทียบง่ายๆ อย่างเรื่อง นาคี กับ รากนครา  

 

ละคร นาคี ดังระเบิด ส่วน รากนครา พงษ์พัฒน์ทำเหมือนกัน งานดี แต่ไม่มีเรต แล้วอย่างนี้จะมาคาดหวังอะไรกับเรา เราแค่เป็นลูกที่มีโอกาส มีเวทีที่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่คนอื่นอาจจะต้องพยายาม

 

เราโชคดีที่เกิดมาตรงนี้ เราโชคดีที่ว่าคุณพ่อคุณแม่ทำมาให้แล้ว เราแค่สานต่อ แต่ถามว่ากดดันไหม เรากดดัน เพราะเราอยากไปสู่ตรงนั้นเหมือนคุณพ่อคุณแม่บ้าง

กรงกรรมเป็นละครที่มนุษย์มากๆ เวลาดูจะเหมือนเราไปนั่งส่องบ้านข้างๆ เพราะรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวมันมีชีวิต สถานที่ที่เราไปถ่ายมันมีชีวิต และนักแสดงก็เล่นได้ถึง บางทีเราเรียกนักแสดงว่าเป็นตัวละครนั้นๆ เลยด้วยซ้ำ

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

กรงกรรม คือละครเรื่องแรกที่คุณเข้ามาร่วมทำงานอย่างเต็มที่ ตลอด 8 เดือนของการถ่ายทำ คุณได้ประสบการณ์อะไรกลับมาบ้าง

ได้อะไรเยอะไหม ได้เยอะมากๆ ข้อคิดและคำสอนได้อยู่แล้ว ประสบการณ์การทำงานจากคนที่มีมุมมองของตัวเอง มีทักษะ และด้วยความที่ตัวเราเป็นเด็กน้อย เราต้องไปสู้กับกำแพงอะไรบางอย่างที่ต้องพูด ต้องอธิบาย ฟังหรือไม่ฟังไม่รู้ แต่ดีใจที่คุณพ่อยอมรับฟังเรา ยังเปิดโอกาสให้เราได้พูด ได้ถาม

 

อย่างที่บอกว่าตอนเด็กๆ เวลาไปกองถ่ายเหมือนเราไปเที่ยวเล่น พอไปทำงานจริงๆ มันคนละอารมณ์เลย ขนาดเรายังไม่ได้ลงไปเต็มตัวนะ เรายังรู้สึกถึงความกดดัน ความเครียด เราแก้ปัญหาอย่างนี้ เราอยากช่วยคุณพ่อ ตรงนี้ให้บีพูดแทนไหม พ่อบอกว่าไม่เป็นไร ด้วยศักดิ์ศรีของเขาด้วย เขาต้องเป็นคนพูดอยู่แล้ว แต่บางครั้งเราก็อยากแบ่งเบาภาระของเขาในฐานะลูก

 

แล้วด้วยความที่เรามาฝึกงาน เราต้องทำหน้าที่ตรงนั้นให้ได้มากที่สุด เพราะในอนาคตไม่รู้ว่าคุณแม่จะมอบหมายให้เราลงสนามจริงเมื่อไร อาจจะเรื่องหน้า เรื่องที่สอง หรือเรื่องที่สามต่อจากนี้ ไม่มีทางรู้ ฉะนั้นเราต้องเก็บเกี่ยวตรงนี้ให้ได้มากที่สุด เก็บประสบการณ์จากปัญหา ต้องแก้ไขเป็น ต้องดีลกับคน ดีลกับงบประมาณ

 

เรารู้สึกว่ากองถ่ายมันให้อะไรมากกว่าคำว่ากองถ่าย เพราะในนั้นมันรวมคนที่มีความแตกต่างมาอยู่ในที่เดียวกัน ทั้งทีมศิลป์ ทีมคอสตูม ทีมไฟ ทีมภาพ ขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้

 

คุณพ่อบอกบีว่าจำไว้อย่างหนึ่งนะ ทำงานกองถ่าย ทำงานละคร มันคือศิลปะร่วม คุณขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้เลย เพราะเราไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ในเมื่อเราให้เขาเข้ามาอยู่ตรงหน้าที่นั้น เราต้องเคารพเขา เพราะเขาเก่งกว่าเรา โอเค เราอาจจะเป็นคนตัดสิน แต่ต้องให้เกียรติเขาด้วย ไม่อย่างนั้นเราจะจ้างเขามาทำไม ถ้าเราไม่ให้พื้นที่เขายืน ประสบการณ์ตรงนั้นมันสอนให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกกลมๆ ของเราคนเดียว ซึ่งตรงนี้บีนับถือคุณพ่อมากๆ ที่เขาสามารถรวมคนจำนวนมากที่แตกต่าง บางคนมาจากเหนือ บางคนมาจากใต้ แล้วทำงานออกมาเป็นชิ้นเดียวกันตามที่ผู้กำกับคิด งานกองถ่ายจึงเป็นงานที่มีเสน่ห์ และเราอยากเรียนรู้มันต่อไป

 

คุณชอบตัวละครใดมากที่สุดใน กรงกรรม

อาซาค่ะ ตอนอ่านบทเรารักอาซามาก เพราะรู้สึกว่าอาซามันคือมนุษย์คนหนึ่งที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดทั้งสิ้น จนรู้สึกว่าในทุกๆ วันบีอยากให้ทุกคนทำอะไรดีๆ ให้กับคนรอบข้าง ซึ่งอาซาคือตัวอย่างที่ดี และเขาเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์

 

ขณะเดียวกันไม่ใช่เฉพาะอาซา แต่เราอยากให้ผู้ชมได้มองทุกตัวละครอย่างลึกซึ้ง เพราะทุกคนมีเบื้องหลังของตัวเอง อาซาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่สดใสตลอดเวลา เขาก็มีมุมมืดของตัวเอง เพียงแต่เขาเลือกที่จะแบ่งปันความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนอื่น หรืออย่างอาตงที่ให้ความรักในแบบที่ลูกมีต่อแม่ แต่ข้อเสียของเขาคือให้จนลืมนึกถึงตัวเอง นั่นก็คือความทุกข์ในใจของคุณอีกทีหนึ่ง

นักแสดงที่ดีคือการเป็นตัวละครและเชื่อในทุกการกระทำของเขา ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นเบลล่าในบทนี้เลย เราไม่เคยดูละครของเบลล่า แต่พอมาถึงตอนนี้ เราเชื่อว่าลมหายใจของเขาเป็นเรณูมาก

เอกนรี วชิรบรรจง เอกนรี วชิรบรรจง

 

เวลาคนดูเห็นในทีวีแล้วรู้สึกว่านักแสดงเป็นตัวละครได้ดีมาก อยากรู้ว่าเบื้องหลังการถ่ายทำกว่าจะออกมาอย่างที่เห็นมีอะไรน่าสนใจบ้าง พลังการแสดงของจริงสุดยอดขนาดไหน

เราอึ้งมาก เพราะคุยกันไว้อย่างหนึ่ง อ่านบทเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่พอนักแสดงเข้าฉาก เขาเล่นอีกอย่างหนึ่ง เพราะเวลาที่ตัวละครสองตัวมาเจอกัน ถ้าตัวละครหนึ่งไม่ส่ง อีกตัวละครก็จะไม่สามารถถ่ายทอดบางสิ่งออกมาได้ ซึ่งกับเรื่องนี้นักแสดงทุกคนเต็มมาก เราเห็นแล้วทึ่ง

 

ยกตัวอย่างซีนที่อาม่า (ใหม่ เจริญปุระ) ไปเจอรูปของผู้หญิงในกระเป๋าสตางค์อาซา (จิรายุ ตั้งศรีสุข) โอ้โห พี่ใหม่ร้องไห้น้ำตาแตก ซึ่งพี่ใหม่บอกว่าตัวเขาเองเคยมีความหลังเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาเลยอินมาก นั่นทำให้เราเข้าใจว่า เออ เรื่องราวพวกนี้มันคือชีวิตมนุษย์จริงๆ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งบล็อกว่านักแสดงควรทำอะไรหรือไม่ทำอะไร

 

ในกองถ่าย คุณพ่อจะสอนนักแสดงอย่างหนึ่งคือ คุณอยากร้องไห้ไหม ตัวละครอยากร้องไห้ไหม หรือตัวละครคิดยังไง เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ เราต้องให้นักแสดงคิดในแบบของเขาเอง

 

นักแสดงที่ดีคือการเป็นตัวละครและเชื่อในทุกการกระทำของเขา ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นเบลล่าในบทนี้เลย เราไม่เคยดูละครของเบลล่า แต่พอมาถึงตอนนี้ เราเชื่อว่าลมหายใจของเขาเป็นเรณูมาก  

 

อย่างอาซา บีเคยถามพี่เจมส์จิว่าเขาเอาตัวเองเล่นหรือเปล่า เพราะเวลาอยู่นอกจอ เบื้องหลังเขาก็วิ่งเล่นกับบี แฮปปี้ สดใสเหมือนอาซาเลย เราไม่รู้นะว่าเขาอินหรือแสดงดี แต่รู้สึกว่าเขาเชื่อและเต็มที่กับตัวละครนั้นๆ จนมันทำให้เรารู้สึกว่าตอนเขาเป็นตัวละครนั้นๆ มันดูจริงไปหมด

 

ถึงตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่า กรงกรรม คือละครที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ของกระแสและเสียงชื่นชม แต่สำหรับคนที่ได้ลงมาทำงานเบื้องหลัง คุณคิดว่าอะไรคือความสำเร็จในแง่ของคนทำงานมากที่สุด

การถ่ายทอดข้อความค่ะ เพราะคุณพ่อตั้งใจว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องบาปบุญคุณโทษ ถ้าเรายึดหลักธรรมะของพระพุทธเจ้านะคะ ทุกคนบนโลกมันก็มีเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง แต่เราจะอยู่และเรียนรู้กับมันอย่างไร ละครเรามีข้อคิดที่คุณพ่อได้รวบรวมแล้วย่อยออกมาให้ง่ายที่สุด เราใส่ข้อความเหล่านั้นลงไปในบทละครซึ่งตั้งใจทำออกมาให้ดูสนุก แต่ดูแล้วคุณได้อะไรจากมัน นั่นคือความสำเร็จของการที่สื่อสารไปแล้วคนดูรับรู้จากคำพูดของนักแสดง คุณจะเก็บเอาไปหรือเปล่าก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าคุณได้กลับไป เราฟิน จบ  

 

กรงกรรม เป็นละครที่มนุษย์มากๆ เวลาดูจะเหมือนเราไปนั่งส่องบ้านข้างๆ เพราะรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวมันมีชีวิต สถานที่ที่เราไปถ่ายมันมีชีวิต และนักแสดงก็เล่นได้ถึง บางทีเราเรียกนักแสดงว่าเป็นตัวละครนั้นๆ เลยด้วยซ้ำ ทุกคนอินมาก

 

ฉะนั้นเราเชื่อว่านักแสดงกลุ่มนี้สามารถถ่ายทอดข้อความที่ทีมงานหรือคนเขียนบทต้องการจะถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์มาก ที่สำคัญมันเป็นละครที่ให้อะไรมากกว่าความสนุก แต่มีความครบรสในความเป็นมนุษย์ ดราม่าจัด สนุกจัด ขณะเดียวกันก็มอบข้อคิดดีๆ ให้กับผู้ชมได้

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising