×

Barcelona Pavilion สถาปัตยกรรมสายมินิมัลเมืองบาร์เซโลนา ผลงานสถาปนิกเจ้าของประโยค ‘Less is More’

01.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

9 Mins. Read
  • มีหนึ่งสถานที่ซึ่งสายเที่ยวยุคนี้ห้ามพลาดเลยก็คือ Barcelona Pavilion อาคารแนวโมเดิร์นสุดมินิมัลในตัวเมืองบาร์เซโลนา ที่ไม่ได้โผล่ในหนังสือนำเที่ยวทั่วๆ ไปแน่นอน
  • สถาปัตยกรรมแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน-อเมริกันระดับตำนานที่พูดชื่อแล้วต้องร้องอ๋ออย่าง Ludwig Mies van der Rohe ผู้ที่นำประโยคที่ว่า ‘Less is More’ และ ‘God is in the details’ มาใช้ในงานออกแบบ จนเป็นที่ฮิตติดปากของสายมินิมัลจนถึงทุกวันนี้

ถือเป็นช่วงขาขึ้นของประเทศสเปนที่กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ด้วยมู้ดยุโรปแบบสนุกๆ อาหารอร่อย ไวน์ดี จุดกำเนิดแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ แถมยังเป็นแหล่งรวมงานสถาปัตยกรรมระดับเทพอีกด้วย

 

แต่มีหนึ่งสถานที่ซึ่งสายเที่ยวยุคนี้ห้ามพลาดเลยก็คือ Barcelona Pavilion อาคารแนวโมเดิร์นสุดมินิมัลในตัวเมืองบาร์เซโลนา ที่ไม่ได้โผล่ในหนังสือนำเที่ยวทั่วๆ ไปแน่นอน

 

ภาพ: www.bauhaus100.de/de

Ludwig Mies van der Rohe, 1934

 

ก่อนจะไปรู้จักกับหนึ่งในสถานที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองบาร์เซโลนาแห่งนี้ ต้องบอกที่มาของ Barcelona Pavilion กันก่อน

 

สถาปัตยกรรมแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน-อเมริกันระดับตำนานที่พูดชื่อแล้วต้องร้องอ๋ออย่าง Ludwig Mies van der Rohe ผู้ที่นำประโยคที่ว่า ‘Less is More’ และ ‘God is in the details’ มาใช้ในงานออกแบบ จนเป็นที่ฮิตติดปากของสายมินิมัลจนถึงทุกวันนี้

 

Mies แทบจะเป็นตัวพ่อของงานออกแบบในยุค Modernism (อยู่ในแก๊งเดียวกับ Le Corbusier, Walter Gropius และ Frank Lloyd Wright) เขายังเป็นอดีตผู้อำนวยการของโรงเรียนสอนดีไซน์ Bauhaus ในช่วงปี 1930-1933 หลังจากนั้น Mies ก็ตัดสินใจย้ายออกจากเยอรมนีในปี 1937 ไปอยู่ที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ผลงานสร้างชื่ออื่นๆ ของ Ludwig Mies van der Rohe นอกจาก Barcelona Pavilion แล้วก็ยังมี The Farnsworth House (รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) และตึก Seagram ในนิวยอร์ก

 

ภาพ: aws.amazon.com

 

ปัจจุบัน Barcelona Pavilion เป็นพื้นที่ของ The Ludwig Mies Van Der Rohe Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อส่งเสริมงานด้านสถาปัตยกรรม

 

แต่ก่อนหน้านี้ Barcelona Pavilion ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในงาน Barcelona International Exposition ในปี 1929 ซึ่งเป็นงาน World Fair ที่ให้แต่ละประเทศมาโชว์ผลงานและนวัตกรรม ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งจัดขึ้นบริเวณ Montjuïc ในบาร์เซโลนา โดย Barcelona Pavilion ผลงานของ Ludwig Mies van der Rohe ก็ถูกใช้เป็นตึกสถาปัตยกรรมตัวแทนจากประเทศเยอรมนีในตอนนั้น

ภาพ: www.pinterest.com

แปลนอาคาร Barcelona Pavilion

 

ถ้ามานั่งคิดดูดีๆ สถาปัตยกรรมในช่วงปี 20 แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกับ Barcelona Pavilion แห่งนี้ ด้วยโครงสร้างตึกที่เรียบง่ายแต่สมบูรณ์ การใช้พื้นที่ว่างในการออกแบบ และ ‘free plan’ หรือการออกแบบภายในแบบไม่มีผนังกั้นห้อง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นผลมาจากการที่เยอรมนีเพิ่งผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมในเยอรมนีเข้าสู่ยุคใหม่ โดยสถาปนิกอย่าง Ludwig Mies van der Rohe ก็ได้รับโจทย์มาประมาณว่า ให้สร้างตึกที่ ‘สะท้อนให้เห็นยุคใหม่’ ของประเทศเยอรมนีนั่นเอง และทำให้เราได้เห็น Barcelona Pavilion ที่หน้าตาล้ำยุคสุดๆ

 

ภาพ: mikeshouts.com

Barcelona Chair

 

ภาพ: miesbcn.com

Barcelona Chair ใน Barcelona Pavilion

 

 

ภายในงาน Barcelona Pavilion ยังถูกใช้เป็นห้องรับรองของ King Alfonso XII ของสเปนในตอนนั้น ซึ่งถ้าดูด้านในจะเห็นว่ามินิมัลมาก มีเพียงเก้าอี้ ‘Barcelona Chair’ ที่ถูกออกแบบโดย Ludwig Mies van der Rohe ตั้งอยู่เท่านั้น ซึ่งเขาย้ำไว้เลยว่า อาคารหลังนี้ต้องมีเฟอร์นิเจอร์แค่เก้าอี้รุ่นนี้ตั้งอยู่เท่านั้น ห้ามมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ซึ่งทำให้เก้าอี้เบาะหนังสีดำ Barcelona Chair ที่หน้าตาเรียบๆ ไม่มีที่วางแขน และรูปทรงล้ำสมัยมากในยุคนั้น ต้องกลายมาเป็นพระราชอาสน์ให้กับทั้งพระราชินีและพระราชาของประเทศสเปน ณ ตอนนั้นด้วย

 

ในปัจจุบัน Barcelona Chair กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานตัวแทนงานออกแบบยุค Modernism ที่ถูกก๊อบปี้ไปใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก (แต่ของแท้ก็ยังมีผลิตขายอยู่เช่นกัน)

 

 

นอกจากแปลนอาคารและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกที่เป็นจุดเด่นของ Barcelona Pavilion แล้ว ‘วัสดุ’ ที่ใช้สร้าง Barcelona Pavilion ก็เป็นจุดสำคัญที่ทุกคนต้องไปสัมผัส ตั้งแต่การใช้กระจก เหล็ก และหิน 4 ชนิดในการสร้าง ได้แก่ หินทราเวอร์ทีนโรมัน, หินอ่อนอัลไพน์สีเขียว, หินอ่อนโบราณสีเขียวจากกรีซและโอนิกซ์ นิลสีทองจากเทือกเขาแอตลาส ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าลายของหินที่ถูกประกอบเป็นผนังนั้นยังมีการเรียงกันให้เกิดลายสมมาตรอีกด้วย

 

ภาพ: visualhouse.co

 

ภายในอาคารยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นคือรูปปั้น ‘Dawn’ (Alba) ผลงานของ Georg Kolbe  ศิลปินชาวเยอรมัน เป็นรูปปั้นทองสำริดรูปหญิงสาวเปลือยที่ชูมือขึ้นเหนือหัว และถูกวางอยู่เหนือน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ Ludwig Mies van der Rohe คิดไว้แล้วว่าจะเป็นจุดที่มองเห็นได้หลายมุมที่สุด เพราะเราจะมองเห็นเงาสะท้อนทั้งบนผิวน้ำ บนหินอ่อน และบนกระจกได้รอบด้าน แถมด้วยรูปทรงคดโค้งของหุ่นตัวนี้ยังช่วยสร้างความขัดแย้งให้กับตึกที่มีแต่เส้นตรงได้อีกด้วย แต่ปัจจุบันหุ่น Dawn ที่ตั้งอยู่ไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นรูปปั้นที่ทำให้เหมือนต้นฉบับอีกทีหนึ่ง

 

 

นอกจากหุ่น Dawn ที่เป็นของทำใหม่แล้ว Barcelona Pavilion ที่ตั้งอยู่ก็ไม่ใช่ของดั้งเดิมทั้งหลัง แต่เป็นการประกอบใหม่ของอาคารเก่าอีกที เพราะพอจบงานนิทรรศการในปี 1930 Barcelona Pavilion ก็ต้องถูกแยกร่าง (แต่มีการเก็บชิ้นส่วนคุณภาพดีเอาไว้ทั้งหมด)

 

จนกระทั่งในปี 1980 ที่ Oriol Bohigas หัวหน้ากรมผังเมืองของ Barcelona เห็นว่า Barcelona Pavilion เป็นทั้งงานชิ้นเอกของ Ludwig Mies van der Rohe ทั้งยังเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมในยุค Modernism ที่ควรค่าแก่การนำมาโชว์ให้คนรุ่นหลังเห็น เขาจึงสั่งให้มีการประกอบร่าง Barcelona Pavilion ขึ้นมาใหม่ พร้อมการช่วยเหลือของทีมสถาปนิกอย่าง Ignasi de Solà-Morales, Cristian Cirici และ Fernando Ramos จนทำให้ Barcelona Pavilion คืนชีพพร้อมโชว์อีกครั้งในปี 1986 จนถึงปัจจุบัน

 

Instagram-Worthy

มาถึงที่แล้ว สถาปัตยกรรมแห่งนี้ก็จะดูหลังไม่ใหญ่มาก แต่อาจจะเดินแล้วงงๆ ว่าควรจะถ่ายรูปมุมไหนถึงจะดีที่สุด เราเลยคัดมุมบังคับที่ใครไปต้องถ่ายมาให้

 

มุมจากริมบ้านที่มองเห็นบ่อน้ำและรูปปั้น Dawn

 

มุมผนังหินทราเวอร์ทีน

 

มุมสระน้ำหน้าบ้าน

 

Shop

แน่นอนว่าใครที่คลั่งไคล้งานออกแบบหรือชื่นชอบ Ludwig Mies van der Rohe อยู่แล้ว ต้องอยากได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน ในบริเวณบ้านมีร้านขายของฝากให้นักท่องเที่ยวช้อปปิ้งด้วย

 

ไอเท็มหลักๆ ที่เราคิดว่าต้องซื้อเลยก็มีทั้งถุงผ้าสกรีนข้อความอย่าง ‘I don’t want to be interesting, I want to be good.’ และ ‘god is in the details.’ หรือถ้าใครติดใจเก้าอี้ Barcelona Chair ที่ร้านก็มีโมเดลเก้าอี้ครบทุกสี (มีเก้าอี้ดังๆ รุ่นอื่นด้วย เช่น Eames Lounge Chair และ Egg Chair)

 

ภาพ: chezlorraine.wordpress.com

 

How to go

การเดินทางไป Barcelona Pavilion ง่ายนิดเดียว เพราะบ้านตั้งอยู่ติดกับจุดเด่นอย่าง Barcelona Palace สามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Espanya และออกทางออกที่มุ่งหน้าไปยัง Barcelona Palace เมื่อเดินขึ้นบันได ให้มองทางขวา ก็จะเจอกับ Barcelona Pavilion แล้ว หรือถ้านั่งรถบัส ก็สามารถนั่งรถบัส Turistic (Red Route) ไปลงสถานีหน้า Barcelona Pavilion เลยก็ได้

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI
  • สายการบิน Qatar Airways เปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-บาร์เซโลนา โดยแวะพักที่สนามบินนานาชาติฮาหมัด ที่กรุงโดฮา รายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ www.qatarairways.com/th
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising