กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (21-25 กันยายน) ว่าแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.85-31.20 ต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ปิดระดับ 31.06 ต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,600 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,600 ล้านบาท โดยมีปัจจัยเสี่ยงทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ประเมินว่านักลงทุนจะติดตามความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลัง Fed มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายตามความคาดหมายของตลาด และระบุว่าจะตรึงดอกเบี้ยไว้จนกว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเหนือเป้าหมายระยะหนึ่งเพื่อให้ค่าเฉลี่ยเงินเฟ้ออยู่ที่ 2%
ขณะที่สัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายล่าสุดสะท้อนการปรับกรอบนโยบายการเงิน โดยเปิดโอกาสให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นมาอยู่สูงกว่าเป้าหมายเพื่อเป็นการชดเชยภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย Fed จะให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการจ้างงานเป็นเวลานานเท่าที่จะสามารถทำได้ ทั้งนี้ประธาน Fed กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัว แต่มีแนวโน้มว่าอัตราการฟื้นตัวจะชะลอลง ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการสนับสนุนจากนโยบายการเงินและการคลังมีความจำเป็น
ส่วนเงินปอนด์มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit และสัญญาณที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้หารือเรื่องการใช้ดอกเบี้ยติดลบ รวมถึงอังกฤษอาจดำเนินมาตรการปิดเมืองรอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 23 กันยายนนี้ และเน้นย้ำความสำคัญของการกระจายสภาพคล่องไปสู่ภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต รวมถึงการสอดประสานมาตรการด้านการเงินการคลังและสินเชื่อให้มีประสิทธิผลมากขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูงจากประเด็นความเสี่ยงรอบด้านทั้งในและต่างประเทศ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
