วันนี้ (31 สิงหาคม) ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ) ใน กทม. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ใน กทม. ครั้งที่ 3/2565
จักกพันธุ์กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้รวบรวมแผนปฏิบัติการจากหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเกิดมลภาวะ จนเข้าภาวะวิกฤตมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น กรุงเทพมหานครจะดำเนินตามแผนที่มีอยู่ 16 กิจกรรม เช่น การล้างถนน ตรวจไซต์ก่อสร้าง ตรวจมลภาวะตามสถานที่ต่างๆ เมื่อเริ่มเข้าวิกฤตก็จะมีการปรับแผน
จากการประชุมวันนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้ปรับแผนเฉพาะในแต่ละพื้นที่ เช่น อาจต้องมีการปิดโรงเรียน หรือห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ (สิบล้อ) วิ่งเข้าพื้นที่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะส่งแผนที่ปรับกรณีภาวะวิกฤตมาให้สำนักสิ่งแวดล้อมในวันที่ 20 กันยายน และจะมีการประชุมคณะกรรมการฯ อีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม
จากนั้นจะเริ่มปฏิบัติตามแผนทันที สำหรับการวัดค่าฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันนี้ กทม. มีเครื่องวัด 79 จุด และรถโมบายล์ 4 แห่ง มีการรายงานค่าฝุ่นเป็นรายเขต 50 เขต ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เสนอให้พิจารณาว่าควรรายงานรวมทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ หรือรายเขตเช่นในปัจจุบัน
จักกพันธุ์กล่าวต่อไปว่า ปัญหาหลักที่ทำให้เกิดมลภาวะในกรุงเทพฯ มี 2 เหตุ คือจากเครื่องยนต์ดีเซลและการเผา หากสามารถควบคุม 2 ส่วนนี้ได้ ปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ ก็จะลดน้อยลง กรณีรถสิบล้อเป็นเครื่องยนต์ดีเซล หากสามารถควบคุมได้ปัญหาฝุ่นในพื้นที่ก็จะลดลงด้วย งบประมาณที่นำมาจัดการเป็นงบปกติที่ใช้ทุกปีไม่ได้มีการจัดสรรเพิ่ม เพราะเรื่องนี้เป็นงานที่ทำปกติไม่ใช่เฉพาะกิจ
