วันนี้ (22 มีนาคม) เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกิจกรรม 60+ Earth Hour 2025: ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อนว่า สำหรับปี 2568 โดยกรุงเทพมหานครร่วมกับภาคีเครือข่าย เดินหน้ารณรงค์กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน
ซึ่งปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 20.30-21.30 น. ด้วยการขอความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ตึกสูง ป้ายโฆษณา ไฟบ้านเรือน และการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรมในโซเชียลมีเดียด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour2025 หรือ #BiggestHourForEarth หรือ #MyHourForEarth
เอกวรัญญูกล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือสถานที่ปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในปีนี้ ประกอบด้วย 5 สถานที่หลัก ได้แก่
- วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
- วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่
- เสาชิงช้า เขตพระนคร
- สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด
- ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) เขตป้อมปราบฯ
รวมถึงสำนักงานเขต 50 เขต ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร/สถานที่ในพื้นที่เขต พร้อมใจกันร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์บริเวณอาคาร บ้านเรือนในถนนด้วย
เอกวรัญญูกล่าวว่า กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนประชาชนร่วมแสดงพลังในกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน โดยปิดไฟที่ไม่ใช้งานพร้อมกับ 7,000 เมือง 190 เมืองทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟภายในบ้านแล้ว ยังเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน ประหยัดงบประมาณ และช่วยรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน และถ้าเราทุกคนร่วมมือกันทำต่อเนื่องในทุกที่ทุกเวลาจนเป็นกิจวัตรในชีวิตประจำวัน จะช่วยผลักดันให้การลดใช้พลังงานไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการลดภาวะโลกร้อน
“การรณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมงในวันนี้ ไม่ใช่แค่การแสดงพลังของคนกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมพลังของประเทศไทยในการช่วยกันลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อบ้านเมืองของเรา เพื่อโลกของเรา” เอกวรัญญูกล่าว