วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ณัฐวุฒิ อุปปะ ผู้แทนภาคีเซฟบางกลอย นำตัวแทนชุมชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน อ่านแถลงการณ์ บันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ระหว่างตัวแทนรัฐบาล, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ), ภาคีเซฟบางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย
โดยกล่าวย้ำ 6 ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ
1. ให้ชาวบ้านกลับไปทำไร่หมุนเวียนและดำรงชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิมที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน
2. ยุติการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตั้งจุดตรวจและลาดตระเวนในหมู่บ้านบางกลอยล่าง และยุติการข่มขู่ คุกคาม ใช้ความรุนแรง กับชาวบ้าน 36 ครอบครัว ที่กลับไปทำกินที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน
3. ยุติการขัดขวางการส่งข้าว อาหาร สิ่งของจำเป็นให้ชาวบ้านบางกลอย
4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ที่มีแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโดยด่วน
5. ชาวบ้านบางกลอยล่าง ขอให้รัฐบาลดำเนินการจัดสรรที่ดิน ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพได้อย่างมั่นคง
6. รัฐบาลต้องยุติการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดสกัด ลาดตระเวน ตรวจค้น สร้างแรงกดดัน หวาดกลัวแก่ชาวบ้าน และให้มีมาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพ ความปลอดภัยของชาวบ้านบางกลอย
“อยากให้จดหมายฉบับนี้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิมที่ชาวบ้านจะต้องมาเคลื่อนไหวในทุกครั้ง บททดสอบครั้งนี้จะวัดศักยภาพการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาชาวบ้านบางกลอย ซึ่งครั้งนี้เราจะกลับกันไปก่อน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้ลงนามกันนี้ เราก็พร้อมกลับมาปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพราะเราถือว่าได้ทำพิธีแล้วว่าพื้นที่แห่งนี้คือหมู่บ้านใจแผ่นดิน” ณัฐวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ พงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ตัวแทนชุมชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน กล่าวว่า จะไปชี้แจงให้ชาวบ้านทราบถึงข้อตกลงตามเอกสารที่ได้มีการลงนามร่วมกันครั้งนี้ และจะนำข้อตกลงนี้ไปติดที่ศาลาพอละจี ซึ่งเป็นศาลาอเนกประสงค์ของชุมชนบ้านบางกลอย
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล