ภูเขาไฟอากุงบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เกิดปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้งในรอบสัปดาห์ เขม่าและควันไฟพวยพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟสูงกว่า 4,000 เมตร ทางการเร่งสั่งอพยพประชาชนกว่า 24,000 คนในพื้นที่จาก 224 จุดทั่วเกาะให้อยู่ในสถานที่หลบภัยชั่วคราวแล้ว
สายการบินต่างๆ ได้รับการประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเกิดการปะทุครั้งใหญ่ขึ้นในอีกไม่ช้า ควันและเขม่าจำนวนมากคละคลุ้งไปทั่วชั้นบรรยากาศและส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบังคับทิศทางของเครื่องบิน ดังนั้นในระยะนี้ทุกสายการบินควรหลีกเลี่ยงการบินผ่านใกล้เกาะบาหลี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากความร้อนและเถ้าถ่านที่ปะทุออกมา
Ari Ahsan โฆษกของท่าอากาศยานนานาชาติ Ngurah Rai ของบาหลีระบุว่า ท่าอากาศยานนานาชาติ Lombok บนเกาะ Pulau Lombok ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะบาหลีจะปิดให้บริการชั่วคราว รวมถึงระงับเที่ยวบินต่างๆ ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างกว่า 5,500 คน ในขณะที่สายการบินภายในประเทศยังคงให้บริการตามปกติ
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ยังคงระดับเตือนภัยไว้ที่ระดับ 3 (High Alert) โดยห้ามผู้ใดเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยในรัศมี 7.5 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ ทั้งนี้รัฐบาลอินโดนีเซียยังคาดการณ์ว่า เหตุภัยธรรมชาติในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของเกาะบาหลีกว่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.59 พันล้านบาท)
สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวไทยในบาหลีกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มด้านล่างนี้ เพื่อประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน: แบบฟอร์มลงทะเบียนคนไทยในบาหลี
หมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา +62 811 186253
หมายเลขฉุกเฉินของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ +62 812 3825542
Photo: AFP
อ้างอิง: