“Don’t judge the book by its cover.” คำกล่าวที่สรุปประสบการณ์เยือนบาร์ใหม่ย่านอารีย์ได้อย่างเหมาะที่สุด
เราได้ยินถึงบาร์เปิดใหม่ย่านอารีย์ที่คุณอาจตั้งคำถามเมื่อได้กดชมรูป แต่ ‘บาร์เด็ก’ ที่ว่าแห่งนี้คืออะไรกัน? หรือจะเป็นคาเฟ่เปิดใหม่เอาใจหัวใจหวานให้ชวนมาแชะภาพลงอินสตาแกรม แต่เบื้องลึกของหน้าปกสีหวานพาสเทล เนื้อหาของร้านเบบี๋แห่งนี้คืออะไร?
บรรยากาศน่าไปแวะเวียนกับมุมประชุมแล้วเมาท์ต่อยาวๆ กับทีมได้ของร้าน
The Vibe
Baby Bar (เบบี้ บาร์) บาร์ที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 ใต้โรงแรม Craftsman Hotel นี้ได้ผู้อยู่เบื้องหลังร้านโปรดของคนทำงานย่านชิดลม สาทร อย่าง All Six to Twelve และ Amontre มาจัดฉากสร้างพื้นที่ด้านล่างของโรงแรมให้เป็นพื้นที่กินดื่มของคนรักความสำราญในชีวิต เพียงแค่ก้าวขาเข้าประตูโรงแรมก็ถึง ขวามือคือ Sunken Seat เวิ้งโซฟาที่จมลงไปข้างสระว่ายน้ำ นั่งแล้วได้บรรยากาศชิลทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนซ้ายมือเป็นบาร์ชานมไข่มุกไต้หวัน
บรรยากาศฉาบด้วยความเซ็กซี่ ขี้เล่น
ด้านในของร้านนั้นเป็น All-Day Bar ตกแต่งด้วยโทนสีชมพู บรรยากาศสุดจะซาบซ่านฉาบด้วยความเป็นผู้หญิงที่ให้คาแรกเตอร์สาวเปรี้ยวหลังพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนยามกลางวัน บรรยากาศของร้านกลับดูใสซื่อ แอบมีกลิ่นอายแบบหนังของเวส แอนเดอร์สัน ปนความเซ็กซี่ด้วยผ้าม่านซีทรูตามมุมร้าน โคมไฟด้านบนยังขี้เล่นล้อถึงโมบายของเล่นเด็กอันสื่อถึงชื่อร้าน
Baby Shower ค็อกเทลสีเขียวอ่อนเบสด้วยจินและเหล้าเมลอน ท็อปด้วยฟองละมุน
The Drinks
เห็นสีพาสเทลแบบนี้ แต่กลับย้ำความนัยว่า ‘ไม่หวานนะคะ’ ทั้งทีมงานหลังบาร์หน้าเข้มที่ยืนปรุงค็อกเทลที่ห่างไกลความหน่อมแน้ม และรสชาติยังไม่เน้นเปรี้ยวหวานแบบที่คุณคิด ด้วยความที่เป็นบาร์แถมยังอยู่ในโรงแรม จึงทำให้ Baby Bar มีค็อกเทลเสิร์ฟตลอดทั้งวัน เราแนะลองเปลี่ยนจากชานมไข่มุกใสๆ หรือกาแฟนมยามบ่าย มาเป็นค็อกเทลสีสันสดใส (แต่อย่าให้รูปลักษณ์หลอกคุณได้…) เริ่มกันที่ค็อกเทลช็อต 2 ตัวที่บาร์เทนเดอร์สาวผู้เป็นหนึ่งในหัวคิดค็อกเทลช็อตสุดดังที่ภูเก็ต
บาร์เทนเดอร์สาวสร้างงานอาร์ตในแก้วช็อต
แนะนำช็อตแรก Daydreaming (300 บาท) ค็อกเทลใสที่ตกตะกอนด้วยสีสันช็อตนี้ชวนนึกถึงยูนิคอร์นก็ไม่ปาน เบสด้วยเหล้าจิน จากนั้นนำเข็มฉีดยาฉีดไซรัปและเหล้าหวานเพิ่มรสชาติและสีสัน มีทั้งเหล้ากล้วย เหล้าส้ม และเหล้าสตรอว์เบอร์รี ปิดท้ายด้วยหยดน้ำมะนาวอีกเล็กน้อย ฉาบด้วยกลิตเตอร์วิบวับ ใครได้จิบมีได้ทำมากกว่ายิ้มอ่อนแน่นอน
Baby Bloom ดูใสซื่อ ประดับด้วยดอกไม้สีเหลืองแต่จัดหนักใช่ย่อย…
หากช็อตแรกยังไม่พอ ก็คงต้องสั่ง Baby Bloom (300 บาท) ที่ใช้ทั้งวอดก้าและแอบซินธ์ (Absinthe) ตามด้วยเหล้าเสาวรส เหล้าส้ม และไอริชครีม จากนั้นเติมความเฟมินีนด้วยดอกไม้เล็กๆ ประดับลงในแก้วช็อต โปรยผงกลิตเตอร์ชนิดกินได้ ราวกับเวทมนตร์ แล้วลนไฟปิดท้าย รับรองแค่ช็อตเดียว ร้อนผ่าวแน่นอน…
(บน) Not So Innocent จินและเหล้าสมุนไพรถึงเวลาออกโรง,
(ล่าง) Friendzone กับดาวใหญ่จากผลมะเฟือง
สำหรับค็อกเทลใสๆ ดื่มง่าย เหมาะกับทุกคน แนะนำ Baby Shower (250 บาท) ค็อกเทลสีเขียวอ่อนเบสด้วยจินและเหล้าเมลอน ท็อปด้วยฟองนุ่มๆ เบาปากทุกครั้งที่ยกจิบ หรือจะเป็น Friend Zone (270 บาท) ที่มีส่วนผสมของวอดก้ากับบรั่นดีแอปริคอต และซาวเออร์มิกซ์ รสออกแนวเปรี้ยวหวาน ส่วน Not So Innocent (250 บาท) เพิ่มระดับความเข้มขึ้นไปอีก เพราะจัดเต็มทั้งเหล้าจิน เหล้าสมุนไพร และเหล้าหวานรสพีช
ล็อบสเตอร์ซัลซ่าจากแคนาดา
The Dishes
พลิกดูเมนูของกินคู่ค็อกเทลกันบ้าง อาหารที่นี่เน้นของกินเล่นคู่ค็อกเทลเป็นหลัก แต่ก็มีจานหนักมาให้อิ่มท้องจริงจังได้เช่นกัน ภายใต้คอนเซปต์อาหารแนวไทยทวิสต์ ครบรส จัดจ้าน หน้าตาทันสมัย และกินง่าย อย่าง หอยนางรมแซ่บ (90 บาทต่อตัว) หอยนางรมสดตัวใหญ่กับสไปซี่ซอสสูตรเฉพาะ หรือ ล็อบสเตอร์ซัลซ่า (580 บาท) ล็อบสเตอร์สดจากแคนาดานำไปปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คลุกเคล้ากับซัลซ่าซอสที่ประกอบด้วยหอมใหญ่ มะเขือเทศ และมะกอกดำ เสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวทอดที่ใช้แทนนาโชส์ชิปส์ กินเล่นกับเพื่อนได้เพลิน
(บน) หอยนางรมสดตัวใหญ่กับสไปซี่ซอสสูตรเฉพาะ,
(ล่าง) ปีกไก่กระแดะ ไก่ทอดที่สั่งกี่ทีก็หมดทุกที
มากันหลายคนแนะนำให้สั่งเมนูยอดฮิตกินง่าย ทั้งยังทวิสต์ขึ้นไปอีกระดับกับของกินเล่นที่ผสมผสานวัตถุดิบและเทคนิคในอาหารฝรั่งให้มาอยู่ในเมนูกับแกล้มไทยๆ อย่าง ปีกไก่กระแดะ (145 บาท) ชื่อกวนๆ ที่นำปีกไก่ทอดเกลือมาราดน้ำมันทรัฟเฟิลกับชีสพาร์เมซานเยิ้มๆ กินกับน้ำจิ้มแจ่ว อันเป็นฟิวชันสูตรเด็ดตำรับของบ้านในเครือ All Six to Twelve และ Amontre
ไข่เจียวฟูกรอบนุ่มราดด้วยข้าวไรซ์เบอร์รีคลุกหมูสับกะเพรากรอบ
ข้าวไม่เยอะแต่อร่อยแบบไม่รู้สึกผิด
มาที่เมนูหนักท้องขึ้นมาอีกหน่อย โรตีแกงเขียวหวานเนื้อน่องลาย (325 บาท) ปกติที่อื่นจะมาเป็นแกงในถ้วยกับโรตีแผ่นให้ฉีกกินเอง แต่ที่ Baby Bar แกงเขียวหวานเป็นแบบแห้ง แซมด้วยเนื้อน่องลายนุ่มๆ วางเคียงมากับแผ่นโรตีที่ตัดเป็นชิ้นเล็กพร้อมรับประทาน หรืออยากได้เมนูเบาๆ ก็ลอง ปลาแซลมอนย่างน้ำปลา (360 บาท) อีกหนึ่งเมนูน่าโดน จุดเด่นคือเนื้อปลาหอมอร่อยและกลมกล่อมด้วยซอสน้ำปลา ตัดรสด้วยน้ำยำเปรี้ยวหวาน ยำมะม่วงสตรอว์เบอร์รี จานนี้ทั้งรู้สึกเบา ทั้งสดชื่น
(ซ้าย) โรตีแกงเขียวหวานเนื้อน่องลายรสเข้ม,
(ขวา) แซลมอนย่างน้ำปลาเอาใจสายคลีน
ภาษีร้านอาหารของเครือบ้านนี้ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ต้องลองอาหารจานเดียวอย่าง ข้าวกะเพราหมูสับไข่ฟู (165 บาท) ไข่เจียวฟูกรอบนุ่มราดด้วยข้าวไรซ์เบอร์รีคลุกหมูสับกะเพรากรอบ ที่ไข่ฟูไม่อมน้ำมันกินกับข้าวเฮลตี้ได้อร่อยเด็ดดวง หรือจะเป็น สปาเกตตีมันกุ้งไข่เค็ม (185 บาท) หน้าตาคล้ายคาร์โบนารา แต่ดัดแปลงด้วยการนำมันกุ้งและไข่เค็มไปผัดพร้อมกันจนได้ความมันและเค็ม ครีมมี่และไม่แฉะ เรียกได้ว่าจะกินให้อิ่มหรือแย่งกันกินส่งท้ายก่อนกลับบ้านก็ไม่แปลก
กินไปจิบไป ฟังเพลงจังหวะมันๆ ไป คืนนี้ผู้หญิงแซ่บในชุดพาสเทลคนนี้อาจจะทำคุณนั่งเคล้าความสำราญอยู่ที่อารีย์ไปอีกนาน
What You Should Know:
- สังเกตสักนิดก่อนกระดกแก้วช็อต ค็อกเทลช็อตสีสันสดใสที่เราเห็นกันนั้น ชั้นตกตะกอนล่างสุดคือไซรัป เนื่องจากมีความหนาแน่นสูงที่สุด ตามด้วยเหล้าหวานที่มักจะลอยอยู่ตรงกลาง และปกคลุมผิวหน้าด้วยเหล้า
- ในช่วงเช้าและกลางวันมีเมนู All-Day Breakfast และชานมไข่มุก เมื่อถึงตอนเย็นหลังจาก turn down แล้ว เมนูจะเปลี่ยนเป็นของกินเล่นและกับแกล้ม อย่างไรก็ตามสามารถสั่งค็อกเทลได้ตลอดทั้งวัน
- หากคุณไปเชียงใหม่ เราอยากให้แวะไปที่ ‘ยี่ปั๊ว’ บาร์พี่น้องของ Baby Bar ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน และมีคอนเซปต์เก๋ไก๋ที่เกี่ยวข้องกับ ‘ยี่ปั๊ว’ อย่างแท้จริง
Baby Bar
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00-23.00 น.
Address: Craftsman Hotel ซอยพหลโยธิน 11 (เสนาร่วม) กรุงเทพฯ
Budget: 200-800 บาท
Contact: โทร. 0 2279 7299 ext. 55
Website: www.facebook.com/Baby-Bar-Bangkok-2055484554762597
Map:
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์