เป็นอีกหนึ่งร้านที่ THE STANDARD ภูมิใจนำเสนอ และอยากให้คุณหาเวลาไปลองชิมสักครั้ง สำหรับอาหารไทยแท้แบบบ้านๆ ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่รสชาติอร่อยลิ้น รับรองว่าอิ่มเอมใจสบายพุงกันถ้วนหน้า
ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสามเสน 2 หลังวัดตรีทศเทพวรวิหาร ซึ่งหากมองผิวเผิน หลายคนอาจเมินเฉย และไม่คิดว่านี่คือร้านอาหารรสดี ที่ ทอมมี่-สิทธิศักดิ์ และ ยุ-ยุวรัตน์ สาครสินธุ์ สองพี่น้องเจ้าของร้านตั้งใจสร้างสรรค์ในนาม บ้านนวล ให้มีบรรยากาศอบอุ่น น่าเอกเขนกราวกับกินข้าวบ้านญาติ มากกว่าร้านอาหารนอกบ้านทั่วไป
The Vibe
กลิ่นกับข้าวลอยหอมฟุ้ง ชวนน้ำลายสอตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าร้าน ประตูบานน้อยเผยออกให้เห็นใต้ถุนสูงโปร่ง โต๊ะเก้าอี้แบบง่ายๆ คลุมด้วยผ้าฉลุลายสีขาวสะอาดตา ด้านบนมีตะกร้าผลไม้สดวางไว้ต้อนรับแขก เสียงครกตำโขลก ตะหลิวกระทบกระทะ มีให้ได้ยินอยู่เนืองๆ ตอกย้ำบรรยากาศแบบบ้านๆ เสมือนนั่งรออยู่ใต้ถุนบ้านของคุณยาย
ขอบรั้วกำแพงประดับเหล็กซี่ห่าง เปิดเปลือยให้เห็นบรรยากาศภายนอก ทว่าไม่ละทิ้งความเป็นส่วนตัว ด้านล่างมีช่องเอาไว้ก่อถ่านจุดฟืนปรุงอาหารแบบครัวสมัยก่อน ใกล้กันมีโอ่งลายมังกรขนาดใหญ่กักเก็บน้ำสะอาดไว้ล้างไม้ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร ตามมุมต่างๆ ประดับประดาด้วยของเก่า สัตว์จำลอง และดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อเพิ่มความละมุนตา
The Dish
ด้วยพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร และดำเนินงานด้วยน้ำพักน้ำแรงจากเจ้าของร้านเพียง 2 คน ทางร้านจึงเปิดให้บริการเพียง 2 โต๊ะ สามารถรองรับลูกค้าได้มากสุดประมาณ 15 ท่าน
ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยแบบบ้านๆ เมนูที่เราต่างคุ้นเคยกันดี ทีเด็ดจานแรกแนะนำ ‘กุ้งผัดมันกุ้ง’ (250 บาท) กุ้งแชบ๊วยตัวโต 6-7 ตัว นำมาผัดกับมันกุ้งจนสุกหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊ว รสชาติเค็มกลมกล่อม เนื้อกุ้งสดเด้งสู้ลิ้น หอมมันกุ้ง อร่อยมาก ใครมากินต้องสั่งทุกรายไป
ตามติดด้วย ‘น้ำพริกไข่ปู’ (250 บาท) เมนูจานเด็ดที่เราขอเอื้อนเอ่ยว่า ต้องสั่ง เพราะตั้งแต่กินมาหลายที่ เราชอบของร้านบ้านนวลมากที่สุด กระเทียมไทยนำมาโขลกกับพริกขี้หนูสวนและไข่ปูทะเลจนเข้าเนื้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว จนได้รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด จัดจ้านพอดี เสิร์ฟพร้อมผักลวกประจำฤดูกาล ได้แก่ ดอกขจร ถั่วฝักยาว และผักสด เช่น ขมิ้นขาว แตงกวาหั่นพอดีคำ ทีเด็ดของจานนี้อยู่ที่รสสัมผัสมันปูเน้นๆ และเนื้อไข่ปูกรุบๆ ให้เคี้ยวเพลิน
‘ปลากะพงผัดพริกขี้หนู’ (350 บาท) จานปลารสอร่อย หอมพริกกระเทียมทุกคำที่เคี้ยว ปลากะพงสดๆ นำไปทอดจนเหลืองกรอบ ราดด้วยน้ำปลาเคี้ยวกับพริกขี้หนูสวนและกระเทียม กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แนะนำให้สั่งมากินคู่กับ ‘น้ำพริกไข่ปู’ อร่อยนัก
สำหรับเมนู ‘หมูผัดกะปิ’ (150 บาท) ของที่นี่ใช้กะปิเคยโฮมเมดจากจังหวัดชุมพร ซึ่งมีสีอมชมพู รสชาติไม่เค็มจัด นำมาผัดกับเนื้อหมูแล่บาง ส่งกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่ว รสชาติเข้ม เค็มนำตัดหวานเล็กๆ เป็นเอกลักษณ์ สำหรับเทคนิคการปรุงจานนี้ให้อร่อย คุณยุเผยเคล็ดลับว่า ให้นำกะปิไปโขลกเข้าน้ำปลาและน้ำตาลให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันก่อน เวลาผัดจะได้เข้าถึงเนื้อหมูได้โดยง่าย
ปิดท้ายด้วยเมนูง่ายๆ ที่ชื่นชอบกันทุกครอบครัว ‘ดอกขจรผัดไข่’ (100 บาท) เสิร์ฟมาในจานกระเบื้องแบบบ้านๆ ไร้การแต่งเติมใดๆ แต่เมื่อกินแล้วอร่อยนัก เนื้อสัมผัสแห้งกำลังพอดี ไม่แฉะ ที่สำคัญไร้กลิ่นเหม็นเขียวของดอกขจร รสชาติเค็มอมหวานเล็กๆ เด็กหม่ำได้ผู้ใหญ่กินดี
The Drink
เพราะต้องการเปิดเป็นร้านอาหารง่ายๆ สไตล์บ้านๆ ที่นี่จึงบริการแค่น้ำพื้นฐานทั่วไป เช่น น้ำเปล่า และน้ำอัดลมบางยี่ห้อเพียงเท่านั้น อาจมีน้ำสมุนไพรแบบไทยในบางวันด้วย
What You Should Know
- อาหารและเครื่องปรุงต่างๆ ใช้วิธีการและวัตถุดิบแบบบ้านๆ สมัยคุณย่าคุณยายยังสาว เช่น โขลกพริกและกระเทียมด้วยครก กะปิเคยโฮมเมดจากชุมพร หรือการเลือกใช้กระเทียมไทยแทนกระเทียมจีนกลีบใหญ่ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ซึ่งหอมกว่า และทำอาหารไทยอร่อยกว่ามาก
- เมนูอาหารที่ขายในร้านมีทั้งหมด 20 กว่าเมนู และทุกเมนูเป็นเมนูที่เจ้าของร้านทั้งสองชื่นชอบ
- เหตุผลที่เปิดให้บริการเพียงแค่ 2 โต๊ะ เพราะอยากรับแขกด้วยตัวเองอย่างทั่วถึง คุณยุบอกว่า “อาหารไทย ถ้าอยากทำให้อร่อย ต้องใจเย็น ทุกจานปรุงสดใหม่ ไม่มีการทำเตรียมไว้ล่วงหน้า ถ้าเปิดให้บริการมากกว่านี้แต่ทำไม่ทัน ดูแลไม่ทั่วถึง จะเสียอารมณ์กันทั้งคนทำและคนกินโดยใช่เหตุ”
Open: วันอังคาร ถึง วันศุกร์ เปิด 2 รอบ เวลา 12.00-15.00 น. กับ 17.00-22.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 16.00-22.00 น. กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า
Address: 372 บ้านพานถม ซอยสามเสน 2 ถนนสามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Budget: เริ่มต้น 100 บาท
Contact: 08 1889 7403
Instagram: @baannual372
Map: