นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มแรกแล้วในเช้าวันนี้ (21 กุมภาพันธ์) โดยเป็นการฉีดวัคซีนถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน ก่อนที่ทางการจะเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 กุมภาพันธ์)
ผู้นำออสเตรเลียถือเป็นคนสุดท้ายจากกลุ่มประชาชน 12 คนแรกของประเทศที่ได้รับเลือกให้ฉีดวัคซีน ซึ่งรวมทั้งผู้สูงอายุ หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานดูแลผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า
โดยคนแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนคือ เจน มาลิเซียก หญิงวัย 85 ปี ซึ่งวัคซีนที่นำมาฉีดนั้นเป็นวัคซีนจากบริษัท Pfizer ที่ได้รับการอนุมัติใช้งานในวงกว้าง
มอร์ริสันกล่าวก่อนเริ่มโครงการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 นั้นปลอดภัยและสำคัญ และจำเป็นต้องเริ่มฉีดให้กับประชาชนในกลุ่มที่เปราะบางที่สุดและกลุ่มเจ้าหน้าที่แนวหน้า
“พรุ่งนี้โครงการฉีดวัคซีนของเราจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นในขณะที่กำลังเปิดม่านในวันนี้ เราจึงมาที่นี่เพื่อชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญว่ามันปลอดภัยและสำคัญ และเราต้องเริ่มจากคนที่เปราะบางที่สุดและอยู่ในแนวหน้า”
สำหรับประชาชนออสเตรเลียกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนนั้นคือกลุ่มเจ้าหน้าที่แนวหน้าราว 700,000 คน ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุข ป้องกันชายแดน และเจ้าหน้าที่สถานดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงผู้สูงอายุในสถานดูแล
จากนั้นจึงเป็นประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อายุเกิน 70 ปี ชนพื้นเมืองอะบอริจินและประชาชนในหมู่เกาะช่องแคบตอร์เรสที่อายุเกิน 55 ปี ตามด้วยบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ใหญ่ที่มีปัญหาสุขภาพ และกลุ่มเจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20 กุมภาพันธ์) มีกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนราว 2,000-3,000 คน ออกมาร่วมชุมนุมประท้วงในหลายเมือง อาทิ เมลเบิร์น ซิดนีย์ และบริสเบน เพื่อต่อต้านแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ซึ่งที่เมลเบิร์น เหตุการณ์บานปลายเป็นการปะทะระหว่างผู้ประท้วงบางรายกับตำรวจที่ใช้สเปรย์พริกไทยควบคุมการชุมนุม โดยมีผู้ประท้วงถูกจับกุมไปหลายคน
ภาพ: Mark Evans / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: