×

รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาแจงรายละเอียดถึงอธิบดีฯ เหตุเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ชี้การออกหมายจับไม่เป็นไปตามระเบียบศาล-ตำรวจ

โดย THE STANDARD TEAM
14.03.2023
  • LOADING...
อรรถการ ฟูเจริญ

วันนี้ (14 มีนาคม) มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ชี้แจงการเพิกถอนหมายจับสมาชิกวุฒิสภารายหนึ่ง ความว่า 

 

ตามที่เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ข้อมูลคดี กรณีมีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรอภิปรายพาดพิงศาลยุติธรรมว่า ศาลอาญามีการเพิกถอนหมายจับ โดยมีการแทรกแซงจากรองอธิบดีผู้พิพากษารายหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอหมายจับ อ. ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังจากนั้นมีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาแล้วศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนหมายจับดังกล่าว โดยต้องการทราบว่าผู้ใดเป็นผู้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาเพื่อเพิกถอนหมายจับ และผู้ที่สั่งทราบได้อย่างไรว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น ความดังทราบแล้วนั้น 

 

เดิมเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 พ.ต.ท. มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มาดำเนินการขอหมายจับบุคคล 9 คน ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดตามที่ได้สมคบกันนั้น ฐานสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด ฐานจัดหาวัตถุใดๆ เพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อไม่ให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ และฐานรับทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นๆ จากผู้กระทำความผิด เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำความผิด หรือไม่ให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ และประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งต่อมาเบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน คือ 

 

  1. ตุน มิน ลัต (Tun Min Latt) สัญชาติเมียนมา 
  2. ดีน ยัง จุลธุระ
  3. น้ำหอม เนตรตระกูล 
  4. ปิยะดา คำต๊ะ 
  5. บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด โดย ตุน มิน ลัต

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท. มานะพงษ์ ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ ส.ว. รายหนึ่งในข้อหาเช่นเดียวกับการขอหมายจับครั้งแรกดังกล่าวข้างต้น ทั้งเพิ่มเติมให้ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน สมคบโดยตกลงตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและสนับสนุนการฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ด้วยเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมชำนาญงาน ซึ่งเป็นหัวหน้างานฝากขัง หมายค้น หมายจับ ได้แจ้งเลขานุการศาลอาญา ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นวุฒิสมาชิก เพื่อรายงาน ศักดิ์ชัย รังษีวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ทราบตามลำดับ 

 

ต่อมาเมื่อผู้พิพากษาศาลอาญาที่ทำหน้าที่พิจารณาออกหมาย ค้นหมายจับประจำวันดังกล่าว ได้พิจารณาแล้วออกหมายจับ ส.ว. ให้ พ.ต.ท. มานะพงษ์ ไปดำเนินการแล้ว เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมชำนาญงานคนดังกล่าวได้โทรศัพท์รายงานเลขานุการศาลอาญาอีกครั้ง และแจ้งว่าการออกหมายจับดังกล่าวน่าจะไม่ได้มีการปรึกษาผู้บริหารศาลอาญาก่อนออกหมายจับ เลขานุการศาลอาญาจึงได้รายงานแก่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และมาสอบถามข้าพเจ้าในฐานะรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคนที่ 1 ว่ามีเหตุการณ์ที่มีการออกหมายจับ ส.ว. โดยยังมิได้มีการปรึกษาท่านอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา (ที่เพิ่งมารับตำแหน่งเป็นวันแรก) ก่อน

 

ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า การออกหมายจับดังกล่าวยังเป็นการมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2565 ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา พ.ศ. 2548 คำแนะนำอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน พ.ศ. 2565 ระเบียบศาลอาญาว่าด้วยแนวทางการบริหารจัดการคดีของศาลอาญา ลงวันที่ 1 เมษายน 2565  

 

และคำสั่งศาลอาญาที่ 110/2565 เรื่อง มอบหมายหน้าที่รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีพิเศษในศาลอาญา ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เนื่องจากการร้องขอให้ออกหมายจับ ผู้ร้องขอต้องเสนอพยานหลักฐานตามสมควรว่าผู้จะถูกจับน่าจะได้กระทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่านั่นจะหลบหนี ไปยุ่งกับพยานหลักฐานหรือก่ออันตรายประการอื่น พยานหลักฐานที่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุสมควรในการออกหมายจับ ให้รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน เช่น บันทึกสรุปข้อเท็จจริงจากสำนวนการสอบสวนที่เสนอต่อผู้บังคับบัญชา 

 

ในการพิจารณาคำร้องขอหมายจับ แม้ในคดีที่มีอัตราโทษขั้นสูงเกิน 3 ปี ซึ่งอาจออกหมายจับได้ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66(1) แต่หากไม่ปรากฏเหตุว่า การออกหมายเรียกก่อนจะมีผลเสียหายแก่คดี เสี่ยงต่อการที่ผู้ต้องหาจะหลบหนี การจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะก่อเหตุอันตรายประการอื่น ศาลจึงพิจารณาให้ออกหมายเรียกแทนที่จะออกหมายจับ

 

การปรึกษาคดีนอกจากคดีที่กำหนดไว้แล้ว ให้ผู้พิพากษาปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคือ คำร้องขอหมายค้นหรือหมายจับคดีที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหาย เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ บุคคลในสถานทูต หรือผู้พิพากษา คดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือคดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือกฎหมายอื่น คดีความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมคดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือมีผลกระทบต่อสังคมเป็นพิเศษ ซึ่งคดีที่ต้องปรึกษานี้ให้ผู้พิพากษาปรึกษารองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาก่อนที่จะไปปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาต่อไป 

 

ให้รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีพิเศษปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาในคดีต่อไปนี้

 

คำร้องขอหมายค้นหรือหมายจับคดีที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือผู้เสียหายเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ บุคคลในสถานทูต หรือผู้พิพากษา คดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือคดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือกฎหมายอื่น คดีความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมคดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือมีผลกระทบต่อสังคมเป็นพิเศษ 

 

ซึ่งปรากฏว่า เอกสารประกอบคำร้องขอหมายจับในคดีนี้ที่ผู้ร้องขอให้ออกหมายจับได้ส่งบันทึกข้อความลงวันที่ 28 กันยายน 2565 เรื่อง รายงานสืบสวนถึงผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตน โดยรายงานการสืบสวนสรุปความว่า เห็นควรให้มีการดำเนินคดีกับ ส.ว. ในความผิดดังกล่าว แต่ผู้บังคับบัญชาของผู้ยื่นคำร้องขอยังไม่มีการเกษียนสั่งในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด 

 

การที่จะออกหมายจับวุฒิสมาชิก ยังมิได้มีการดำเนินการปรึกษารองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาก่อนมีคำสั่งแต่อย่างใด ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาฯ คำแนะนำอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาฯ ระเบียบศาลอาญาฯ และคำสั่งศาลอาญาที่ 110/2565 ดังกล่าวข้างต้นด้วย ท่านอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาและข้าพเจ้าจึงมอบหมายให้เลขานุการศาลอาญาแจ้งเจ้าหน้าที่งานหมายค้นหมายจับประสาน พ.ต.ท. มานะพงษ์ ผู้ร้องขอออกหมายจับดังกล่าว นำหมายจับดังกล่าวกลับมาที่ศาลอาญาก่อน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

 

ในชั้นแรก ผู้ขอให้ออกหมายจับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าออกหมายจับให้แล้วจะเรียกกลับไปทำไม ตนได้ส่งหมายจับดังกล่าวเข้าระบบหมายจับของตำรวจทั่วประเทศแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยืนยันให้นำหมายจับกลับมาพิจารณากันใหม่ก่อน เมื่อผู้ขอให้ออกหมายจับดังกล่าวมาที่ศาลอาญาพร้อมกับผู้กำกับการฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตน ก็ได้ร่วมการประชุมปรึกษาร่วมกันกับอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ข้าพเจ้า ผู้พิพากษาที่ออกหมายจับดังกล่าว และเลขานุการศาลอาญาทำหน้าที่หาเอกสาร ต่างๆ 

 

สอบถามแล้วได้ความว่า ผู้ร้องขอให้ออกหมายจับอ้างว่าได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่หมายจับหมายค้นของศาลแล้วว่ามาออกหมายจับวุฒิสมาชิก แต่ผู้พิพากษาผู้ที่ออกหมายจับไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว ทั้งวันดังกล่าวมีการขอออกหมายจับ หมายค้น เป็นจำนวนมาก ผู้พิพากษาได้พิจารณาออกหมายจับ หมายค้น ไปตามที่เคยปฏิบัติมา โดยไม่ได้สังเกตเห็นว่าเป็นวุฒิสมาชิก เนื่องจากในคำร้องดังกล่าวระบุว่า ส.ว. ดังกล่าวเป็นวุฒิสมาชิกเพียงครั้งเดียวในหน้าที่ 2 ของคำร้องฯ จึงออกหมายจับให้ไป โดยมิได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษากับผู้บริหารศาลอาญาตามระเบียบและข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้นก่อน 

 

ข้าพเจ้าได้สอบถามจากผู้กำกับการสืบสวน 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องขอให้ออกหมายจับแล้ว ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย ขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ทราบระเบียบหรือข้อบังคับใดๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการขอหมายจับบุคคลสำคัญเช่นนี้ จึงได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ขณะนั้น) แจ้งว่าหน่วยงานดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของตน แต่ตนได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการท่านอื่นดูแล เรื่องที่ขอหมายจับดังกล่าวตนไม่ทราบ แต่แสดงความเห็นว่าการออกหมายจับวุฒิสมาชิก ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสถาบันหลักเช่นนี้ น่าที่จะต้องขอออกหมายเรียกก่อน ไม่ควรขอออกหมายจับทันที 

 

ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ศาลอาญาอยู่ในเขตความรับผิดชอบ ถึงเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต. อรรถพล แจ้งว่า เรื่องดังกล่าวควรจะขอออกหมายเรียกก่อนเช่นกัน และจำได้ว่าน่าจะมีระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าต้องขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย โดยจะตรวจสอบอีกครั้ง และต่อมาแจ้งว่าเรื่องการที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับสมาชิกรัฐสภา ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้รับมอบหมายก่อนเท่านั้น และหากเป็นช่วงที่อยู่ในสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือรัฐสภา แม้แต่การออกหมายเรียก สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องออกหนังสือขออนุญาตต่อประธานสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกก่อนด้วย ซึ่งในภายหลังได้ส่งตัวอย่างของการดำเนินคดีทำนองเดียวกันนี้มาให้ด้วย 

 

ข้าพเจ้าได้สอบถามผู้พิพากษาที่ออกหมายจับเรื่องดังกล่าวว่า หากท่านพบโดยชัดแจ้งว่าผู้ที่ถูกร้องขอให้ออกหมายจับเป็นบุคคลสำคัญ เช่น วุฒิสมาชิกเช่นนี้ ท่านจะปฏิบัติอย่างไร ท่านผู้พิพากษาผู้ออกหมายจับแจ้งว่า หากตนพบเช่นนั้นก็จะต้องนำเรื่องมาปรึกษารองอธิบดีและอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาก่อนอย่างแน่นอน

 

อีกประการหนึ่งข้าพเจ้าได้สอบถามผู้ร้องขอให้ออกหมายจับว่า คดีดังกล่าวเนื่องจากมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับ ส.ว. มาก่อนแล้ว คดีนี้จึงมีพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวน เหตุใดจึงไม่ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนที่มีอำนาจเป็นผู้มาขอหมายด้วยตนเอง และเหตุใดจึงไม่มีการขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาตามกฎหมายก่อน ผู้ร้องขอให้ออกหมายจับแจ้งว่า ส.ว. คนนี้เส้นใหญ่มาก ไม่มีทางที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการหรือดำเนินคดีใดๆ กับ ส.ว. คนดังกล่าวอย่างแน่นอน ตนสืบสวนมาตั้งแต่ต้น จึงต้องดำเนินการจับกุมเอง 

 

ในการประชุมนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าหากให้มีการนำหมายจับที่ออกโดยไม่ชอบดังกล่าวไปดำเนินการจับคน ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิก และต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบของวุฒิสภา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศาลยุติธรรมแล้ว ย่อมจะต้องมีผลเสียหายกลับมาสู่ศาลยุติธรรมอย่างแน่นอน วุฒิสภาต้องตรวจสอบเรื่องนี้ และก็จะพบว่าความบกพร่องส่วนหนึ่งก็มาจากศาลยุติธรรม ซึ่งไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนั้นได้ ประกอบกับแม้จะมีการออกหมายจับ ไปแล้วแต่ก็ยังมิได้มีการนำหมายจับดังกล่าวไปแสดงเพื่อจับกุมนายอุปกิตแต่อย่างใด จึงสมควรที่แก้ไขเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง โดยการเพิกถอนหมายจับดังกล่าว 

 

จากนั้นข้าพเจ้าจึงขอตัวกลับไปที่ห้องทำงาน เนื่องจากมีผู้พิพากษามาปรึกษาคดี ในที่ประชุมจึงมีความเห็นร่วมกันว่า คำร้องขอออกหมายจับของผู้ร้องดังกล่าวน่าจะยังไม่ชอบ เนื่องจากผู้บังคับบัญชายังไม่มีคำสั่งมอบหมายให้ดำเนินการ และไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเพิกถอนหมายจับดังกล่าว เพื่อให้ออกหมายเรียกก่อนภายใน 15 วัน 

 

หากทางบุคคลสำคัญดังกล่าวไม่มาตามหมายเรียก ก็ให้ผู้ร้องดำเนินการขอหมายจับต่อไป สำหรับหมายเรียกให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการโดยด่วน ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้า ผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ของศาลอาญาที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่มีผู้ใดรู้จักหรือเพื่อช่วยเหลือบุคคลซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกคนดังกล่าวแต่อย่างใด การประชุมปรึกษาหารือและมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับและคำแนะนำทางกฎหมายทั้งสิ้น จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ส.ว. รายนี้คือบุคคลที่ก่อนหน้านี้ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลและเรียกว่า ส.ว.ทรงเอ 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising