วันนี้ (7 มิถุนายน) สำนักข่าวต่างประเทศสรุปภาพรวมเหตุกราดยิงพบว่า เกิดเหตุกราดยิงอย่างน้อย 11 ครั้งในสหรัฐอเมริกา ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่วันศุกร์-อาทิตย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 62 ราย
โดยเหตุกราดยิงที่ถนนเซาท์สตรีทในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในคืนวันเสาร์ (4 มิถุนายน) ที่ผ่านมานี้ เป็นหนึ่งในอย่างน้อย 11 เหตุกราดยิงทั่วสหรัฐฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงทั้งหมด 14 ราย ในจำนวนนี้รวมผู้ลงมือก่อเหตุ 2 ราย ก่อนที่จะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ในจำนวนนี้รวมผู้ลงมือก่อเหตุ 1 ราย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าแรงจูงใจอาจเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มที่นำไปสู่การยิงปะทะกัน
ขณะที่คืนวันอาทิตย์ (5 มิถุนายน) ก็เกิดเหตุกราดยิงขึ้นที่เมืองชัตตานูกาในรัฐเทนเนสซีของสหรัฐฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ในจำนวนนี้ 2 ราย เสียชีวิตจากอาวุธปืน ขณะที่อีก 1 ราย เสียชีวิตจากการถูกรถชนขณะพยายามหลบเลี่ยงเอาชีวิตรอดจากเหตุกราดยิงดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุตัวผู้ลงมือก่อเหตุได้
จากรายงานเกี่ยวกับเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ ที่รวบรวมโดย Gun Violence Archive ระบุว่า ในช่วงวันที่ 27 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ สูงถึง 406 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 891 ราย ส่งผลให้ภาพรวมปี 2022 มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในประเทศนี้แล้วอย่างน้อย 18,966 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 36,333 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากเหตุกราดยิงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2017 เพิ่มสูงขึ้นเกือบถึง 95,000 รายแล้ว
ภาพ: Kriston Jae Bethel / AFP
อ้างอิง: