AstraZeneca มั่นใจว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า จะได้รับการเห็นชอบในการใช้เงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.2 ล้านล้านบาท ในการเข้าซื้อ Alexion Pharmaceuticals บริษัทไบโอเทคของสหรัฐฯ ที่เชี่ยวชาญเรื่องโรคหายาก
“มันค่อนข้างหายากที่จะพบใครบางคนที่บอกว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดี ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่าสิ่งนี้จะออกมาดี” มาร์ก ดูว์โนเยร์ (Marc Dunoyer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของผู้ผลิตยากล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นขั้นตอนต่อไปในวิถีการเติบโตของ AstraZeneca เขากล่าว
การซื้อกิจการครั้งนี้มีการประกาศครั้งแรกในเดือนธันวาคม ทำให้นักลงทุนจำนวนมากประหลาดใจท่ามกลางความพยายามของ AstraZeneca ในการเปิดตัววัคซีนต้านโควิด-19 โดยหากผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบ คาดว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3
การซื้อไบโอเทคของสหรัฐฯ ถือเป็นการทำธุรกรรมที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ AstraZeneca นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในการรวมบริษัทของอังกฤษและสวีเดนในปี 1999 และยึดตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยารายใหญ่ที่สุด 10 อันดับของโลก
สิ่งที่ทำให้ AstraZeneca สนใจ Alexion คือความเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด ไต และการเผาผลาญอาหาร ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มให้กับ AstraZeneca ในด้านภูมิคุ้มกันวิทยา
อีกแม่ทัพการเงินยังยืนยันว่า จะทำให้ AstraZeneca เติบโตอย่างยั่งยืนในอีกหลายปีข้างหน้า หลังจากเห็นผลประกอบการของ Alexion ที่มีรายได้กว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2019 ซึ่งเติบโต 21% เมื่อเทียบรายปี โดยดูว์โนเยร์กล่าวเสริมว่า ยังไม่มีการวางแผนข้อตกลงใหญ่ๆ อีกในระยะเวลาอันใกล้นี้
ขณะเดียวกันความมั่นใจนี้เกิดขึ้นหลังคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา (The U.S. Federal Trade Commission-FTC) สนับสนุนการทำธุรกรรมเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการปิดดีล
การอนุมัติเกิดขึ้นหลังจาก FTC ประกาศว่าจะดูข้อตกลงด้านเภสัชกรรมอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเกี่ยวกับข้อกังวลด้านการแข่งขัน ซึ่งไม่พบสิ่งผิดปกติในกระบวนการดังกล่าว ดูว์โนเยร์กล่าวว่า เขาคิดว่า FTC มุ่งเน้นไปที่การป้องกันการกอบโกยของนวัตกรรมโดยบริษัทขนาดใหญ่เสียมากกว่า
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: