×

อานนท์บุก สน.ปทุมวัน ยื่นหลักฐานให้ตำรวจหาตัวบงการเยาวชนหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ชี้สงสารเด็ก หวังเปลี่ยนใจคนได้

โดย THE STANDARD TEAM
14.02.2022
  • LOADING...
อานนท์บุก สน.ปทุมวัน ยื่นหลักฐานให้ตำรวจหาตัวบงการเยาวชนหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ชี้สงสารเด็ก หวังเปลี่ยนใจคนได้

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) เมื่อเวลา 15.30​ น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ​ปทุมวัน กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์, อานนท์ กลิ่นแก้ว และ วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ พร้อมพวก เข้าพบ พ.ต.ท. เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และหมิ่นพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า​ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 

ผศ.ดร.อานนท์ ได้อ่านแถลงการณ์โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยโดยลงมติ 8 ใน 9 ว่ามีขบวนการเคลื่อนไหวเครือข่ายที่เป็นการล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อันเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 49 และศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้หยุดการกระทำดังกล่าวในทันที ขบวนการดังกล่าวและเครือข่ายก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดมีกลุ่มทะลุวังและเพจมังกรปฏิวัติที่ออกมาลบหลู่ดูหมิ่นพระเกียรติของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แม้เวลาล่วงเลยมากว่าสามเดือน นับแต่วันที่มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 และมาตรา 116 อันเป็นคดีกบฏล้มล้างการปกครอง จึงขอแจ้งเบาะแสการกระทำผิดในคดีกบฏล้มล้างการปกครองแผ่นดินดังกล่าวให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เร่งดำเนินคดีเพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบเรียบร้อย และติดตามผลการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในอีกหนึ่งเดือนนับจากวันนี้เป็นต้นไป และหวังจะได้เห็นความคืบหน้าในการดำเนินคดีอย่างชัดเจนและรวดเร็ว

 

ขณะที่ ผศ.ดร.อานนท์กล่าวว่า หลังจากที่แจ้งความกับผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาเป็นเวลาปีกว่า จำนวน 50 กว่าคดี ผู้ต้องหาส่วนมากนั้นอายุไม่เกิน 25 ปี ซึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของตน ทุกครั้งที่แจ้งความก็ถอดถอนหายใจว่าทำไมเด็กถึงเป็นแบบนี้กันหมด แต่ก็ต้องแจ้งความเพื่อดำรงไว้ซึ่งมาตรา 112 วันนี้ ศปปส. จึงอยากให้คนที่หลงผิดกลับตัวกลับใจ และหันมาให้เบาะแสว่าใครเป็นตัวบงการ ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง

 

ขณะที่วริษนันท์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อกลุ่มที่ให้ร้ายสถาบันกษัตริย์ พวกตนมองเด็กเหล่านี้เหมือนลูกหลาน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ถือว่ามีความกล้า แต่น่าเสียดายที่ได้รับข้อมูลที่บิดเบือนและกระทำสิ่งที่ไม่ควร อยากให้หยุดและหันกลับมารักตนเอง ทำหน้าที่ที่ควรทำ และหันกลับไปหาข้อมูลที่ไว้ใจได้ที่สุด ซึ่งก็คือพ่อแม่ ทั้งนี้เชื่อว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยยังมีคนที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง หากใครมีเบาะแสว่าใครคือตัวบงการ ใครคือท่อน้ำเลี้ยง ให้ออกมาบอกทางการ พวกตนไม่อยากให้เยาวชนถูกเอาผิด อยากให้ถูกกันออกมาเป็นพยาน ขอให้พูดด้วยข้อเท็จจริง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความมั่นใจในข้อมูลหลักฐานว่าจะสามารถมัดตัวผู้บงการได้หรือไม่ ผศ.ดร.อานนท์กล่าวว่า ตนได้เห็นสำนวนฟ้องศาลรัฐธรรมนูญของ ณฐพร โตประยูร ซึ่งเป็นข้อมูลที่มาจากทางราชการ หน่วยงานด้านการข่าวความมั่นคง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีรายชื่อผู้ที่อยู่ในเครือข่าย ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และนายทุน ซึ่งพอเพียงที่จะดำเนินคดีมาตรา 113 และ 116 ได้ โดยอาศัยสำนวนฟ้องเดิม หลังการวินิจฉัยยังมีการกระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ที่สยามพารากอนหรือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเครือข่ายเดิม เท่าที่ทราบ ฝ่ายความมั่นคงก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวสถานที่เกิดเหตุเหล่านั้นและทำบันทึกไว้หมด หากทำสำนวนให้ดีก็สามารถระบุตัวการได้ รวมถึงหากเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองกลับมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเป็นประโยชน์กับรูปคดี

 

ผศ.ดร.อานนท์กล่าวอีกว่า ส่วนตัวคนหนึ่งที่ตนสงสารคือ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เมื่อครั้งอ่านประกาศเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 แม้รุ้งจะมีท่าทีแข็งกร้าว แต่ลึกๆ แล้วไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองอ่าน เมื่อให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่าที่ขึ้นไปอ่านไม่ได้เขียนเองหรือเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีนักวิชาการเขียนมาให้ ตนจึงทราบว่าตัวบงการคือนักวิชาการคนดังกล่าว ตนจึงอยากทำหน้าที่ของคนที่เป็นครู ช่วยเหลือเด็กหลงทางหรือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อออกมาจากคนที่บังคับขู่เข็ญ ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับตัวบงการและกันเด็กออกมาเป็นพยาน เพราะตัวบงการยังสามารถไปหลอกเด็กให้มาทำผิดโดยที่ไม่โดนดำเนินคดีอะไรเลย ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีบทลงโทษ จึงไม่ทำให้คนที่กระทำความผิดเข็ดหลาบ โดยเฉพาะการหลอกใช้เด็ก อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอว่าเด็กตกเป็นเหยื่อและต้องดำเนินคดีกับผู้บงการ เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเยาวชนทุกคนก็มีการศึกษา ผศ.ดร.อานนท์กล่าวว่า เมื่อจบมหาวิทยาลัยมาใหม่ๆ ก็มักจะร้อนวิชา บางครั้งเรียนมาเยอะก็ฉลาดแต่ขาดความเฉลียว รวมถึงความอหังการในตัวและต้องการเปลี่ยนแปลง คนที่ฉลาดกว่าก็มักใช้สิ่งนั้นมาใช้งานเด็ก ทั้งนี้การจับตัวการใหญ่ได้ โดยละเว้นปลาซิวปลาสร้อย ก็ย่อมเป็นประโยชน์และอาจช่วยในการเปลี่ยนใจคนได้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising