ราคาหุ้นของ Apple ณ เวลาปิดตลาดเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (16 มกราคม) ปรับตัวลดลง 4% ซึ่งถือเป็นวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2024 โดยปัจจัยหลักๆ มาจากรายงานหลายฉบับในประเด็นยอดขาย iPhone ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในตลาดใหญ่ของ Apple อย่างประเทศจีน
จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ 259 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ราคาปิดของ Apple ในคืนวันพฤหัสบดีลดลงเกือบ 12% ทำให้ตอนนี้เป็นหุ้นที่มีผลงานรั้งท้ายในบรรดาหุ้นเทคโนโลยี 7 นางฟ้าของปี 2025
CNBC รายงานว่า สาเหตุของการปรับตัวลงของราคาหุ้นเกิดขึ้นจากรายงานล่าสุดจาก Canalys บริษัทวิจัยตลาดที่ระบุว่า Apple ร่วงสู่อันดับที่ 3 ในแง่ของจำนวนยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนปี 2024 ซึ่งเป็นรองผู้ผลิตท้องถิ่นอย่าง vivo และ HUAWEI
ยอดการส่งออกสมาร์ทโฟนของ Apple ในจีนเมื่อปี 2024 ตามข้อมูลจากรายงานลดลง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ vivo และ HUAWEI มียอดขายที่เติบโตขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดขาย iPhone ในประเทศจีนลดลงเป็นเพราะฟีเจอร์เรือธงอย่าง Apple Intelligence ที่เป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Apple ไม่สามารถใช้งานได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ขายที่จีน ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบิ๊กเทครายนี้ลดลง
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่แม้จะเปิดให้บริการแล้วในหลายประเทศกลับต้องเจอกับความท้าทาย โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดที่ Apple ออกมาระงับการสรุปข่าวที่ทำโดย Apple Intelligence ในซอฟต์แวร์เวอร์ชัน iOS 18.3 เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการสรุปข่าวของ BBC ที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งการสรุปข้อมูลที่ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงทำให้ Apple ต้องระงับบริการดังกล่าวชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าฟีเจอร์สรุปข่าวของ Apple Intelligence จะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเมื่อไร แต่ CNBC คาดว่าน่าจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยคาดการณ์จากระยะเวลาการปล่อยซอฟต์แวร์ครั้งก่อนๆ ของบริษัท
อ้างอิง:
