×

เป็นไปได้หรือไม่ที่ Apple จะสามารถจุดปรากฏการณ์ Market Cap ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ (อีกครั้ง) ในเวลาไม่กี่วัน

25.03.2022
  • LOADING...
Apple

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • วิเคราะห์ Apple ต้องทำอย่างไรจึงผลักดันให้หุ้น AAPL มีมูลค่าตลาดแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้อีกครั้ง ท่ามกลางกระแสฟันธงว่ามี ‘ตัวเร่งหลัก’ ไม่น้อยที่สามารถทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
  • ขณะที่เขียนรายงานชิ้นนี้ มูลค่าหุ้น Apple Inc. เพิ่งทะลุ 173 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน และมีแนวโน้มยังคงไต่ระดับจนทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ที่ทำได้ในขณะนี้ ทั้งหมดเป็นสถานการณ์ที่สวนทางกับภาวะความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังชัดเจนในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย
  • 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้หุ้น Apple ฮอตขึ้นมาในนาทีนี้คือ ข่าวลือว่า Apple กำลังเตรียมเปิดตัวบริการสมัครสมาชิกฮาร์ดแวร์สำหรับ iPhone ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งมีโอกาสช่วยเพิ่มรายได้ประจำได้อีกหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงความเชื่อว่า Apple จะสามารถเพิ่มรายได้อีกไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ในธุรกิจโฆษณาออนไลน์ หลังมีบทบาทสำคัญในการออกกฎใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ iPhone ถูกติดตามพฤติกรรมได้ยากขึ้น จนสร้างปัญหาให้กับหลายบริษัท

วันที่ 24 มีนาคม 2022 เป็นวันที่หุ้น AAPL ซื้อขายกันที่ประมาณ 173 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น (5,798 บาทต่อหุ้น) ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดปัจจุบันของเจ้าพ่อสินค้าไอทีอเมริกันอย่าง Apple อยู่ที่หลัก 2.78 ล้านล้านดอลลาร์ 

 

ดังนั้นเซียนหุ้นจึงมองแนวโน้มว่า Apple จะมีมูลค่าถึงระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เมื่อหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องยากและมีโอกาสเกิดขึ้นในเร็ววัน

 

ก่อนหน้านี้ Apple เคยพาหุ้นของตัวเองทะยานขึ้น 12% ในเวลาน้อยกว่า 10 วันหลังจากที่หุ้นแตะระดับต่ำสุดในรอบปี 2022 โดยหุ้นย่อตัวที่ 150 ดอลลาร์ในวันที่ 14 มีนาคม ก่อนจะกระโดดขึ้นสูงกว่าเดิม 

 

สิ่งที่หลายคนคาดการณ์คือ โมเมนตัมขาขึ้นแบบเดียวกันจึงน่าจะเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงที่ Apple ต้องประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ช่วงปลายเดือนเมษายน

 

ในช่วง 5 สัปดาห์ระหว่างนี้ แม้จะมีคนมองโลกในแง่ดีว่าการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจประสบความสำเร็จจนทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าที่เข้าทาง หรือช่วยบรรเทาพิษการตกต่ำของราคาน้ำมันดิบ 

 

แต่ภาพฝันนี้ไม่ใช่ตัวเร่งที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นใน Apple เพราะตัวเร่งนั้นคือข่าววงในที่ทำให้อุ่นใจได้ว่า Apple อาจมีช่องทางทำกำไรเพิ่มอีกในวันที่ต้องเผชิญกับยุคซบเซาที่ยอดขาย iPhone ไม่ค่อยกระเตื้อง เบื้องต้นคาดว่ายอดขาย iPhone จะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ต่อปี (YOY) เท่านั้น

 

Apple

 

ข่าววงในที่ว่านี้คือ ข่าวลือเรื่อง Apple กำลังเตรียมบริการสมัครสมาชิกฮาร์ดแวร์สำหรับ iPhone โดยสำนักข่าว Bloomberg เชื่อว่า บริการจะสามารถเปิดตัวได้ภายในสิ้นปีนี้ ผลคือลูกค้าจะสามารถซื้อ iPhone ผ่านการชำระเงินรายเดือนได้ เช่นเดียวกับที่ผู้ใช้สมัครใช้งาน iCloud ในปัจจุบัน

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


 

น้ำฝนชโลมใจ

ในขณะที่ Apple ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวลือนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าบริการดังกล่าวสอดรับกับความปรารถนาของนักลงทุนผู้ถือหุ้น Apple ซึ่งหวังมานานให้บริษัทขายฮาร์ดแวร์ในรูปการสมัครสมาชิก เพราะโมเดลธุรกิจนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ประจำในระยะยาว 

 

ข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้น Apple สูงขึ้น ส่วหนึ่งเพราะนักวิเคราะห์ต่างระแวงมานานแล้วว่ายอดขายฮาร์ดแวร์มูลค่ามหาศาลของ Apple นั้นอาจถึงจุดอิ่มตัว และการเพิ่มรายได้จากการสมัครสมาชิก ซึ่งเป็นธุรกิจที่คาดการณ์ได้ จะยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับ Apple มากขึ้นอีก 

 

โดยทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดไป มูลค่าหุ้น Apple เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ระหว่างการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2022

 

ก่อนหน้านี้ Apple ได้เสนอวิธีการชำระค่า iPhone แบบรายเดือนมาหลายวิธี ซึ่งรวมถึงโปรแกรมอัปเกรด iPhone ที่มีบริการรับประกันและการอัปเกรดฟรี โดยมีค่าธรรมเนียมรายเดือน ยังมีการจัดไฟแนนซ์ด้วย Apple Card 

 

ลึกเข้าไปประเด็นนี้สำคัญ เพราะผู้บริหารของ Apple รวมทั้งแม่ทัพอย่าง ‘ทิม คุก’ พยายามสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนจับตาดูธุรกิจบริการอย่างใกล้ชิด ซึ่งรายงานชี้ว่า ยอดขายในธุรกิจบริหารของ Apple นั้นทะยานสู่ 68,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้น 27% ทีเดียว

 

Apple

 

ธุรกิจบริการของ Apple ในปัจจุบัน ประกอบด้วยการรับประกันรวมถึงบริการต่างๆ เช่น iCloud และ Apple Music และส่วนแบ่งการขายใน App Store ขณะที่ธุรกิจ iPhone ของ Apple มียอดขายเกือบ 192,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

 

ข่าวลือนี้ถูกโยงกับคำให้สัมภาษณ์ในปี 2019 ซึ่งคุกถูกตั้งคำถามในระหว่างการประกาศผลประกอบการว่า Apple จะพิจารณาออกบริการสมัครสมาชิกฮาร์ดแวร์หรือไม่ ซึ่งซีอีโอไม่ได้ปฏิเสธ และบอกว่า Apple กำลังดำเนินการในโมเดลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะต่อยอดจากบางโปรแกรมที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอยู่แล้ว 

 

ข่าวลือนี้สร้างความประทับใจให้นักวิเคราะห์และนักลงทุน ซึ่งเชื่อว่า Apple จะได้ประโยชน์จากดีมานด์สูงในตลาดอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น iPhone ยังมีแนวโน้มราคาขายของสินค้า (ASP) หรือราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 

 

รวมถึงความท้าทายด้านซัพพลายเชนที่อาจผ่อนคลายลงจากสถานการณ์โควิด ความน่าสนใจคือ ความประทับใจนี้สามารถกลบความกังวลว่า Apple จะได้รับความเสี่ยงจากการหยุดการขายและการดำเนินงานทั้งหมดในรัสเซียได้

 

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การโบกมือลาออกจากตลาดรัสเซียของ Apple อาจส่งผลกระทบทางการเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ที่อาจสร้างความเสียหายมากคือ ความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ซึ่งขาดสะบั้นลง โดย Apple Pay จะเป็นหนึ่งในบริการกลุ่มแรกที่ทางการรัสเซียจะสั่งระงับให้บริการ 

 

ขณะที่ Apple จะหยุดการขาย Apple Store ออนไลน์ทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งในขณะที่รัสเซียมีแนวโน้มต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย Apple ผู้มีฐานะเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้บริโภครายใหญ่ของโลก ย่อมได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

 

Apple

 

มาแน่! อีกหมื่นล้านเข้ากระเป๋า Apple

สำนักข่าว Barrons รายงานผลการวิจัยของ Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstein ว่า Apple อาจทำเงินระดับหมื่นล้านดอลลาร์จากธุรกิจขายโฆษณาออนไลน์ ต่อยอดจากที่ผ่านมา Apple ได้สร้างธุรกิจโฆษณาขนาดเล็กซึ่งกำลังเติบโตต่อเนื่องอย่างเงียบๆ จนสามารถประมาณการว่า Apple มีรายได้โฆษณาประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 แต่ก็ยังมีสัดส่วนต่ำกว่า 2% ของรายรับรวมของบริษัท

 

Toni Sacconaghi ประเมินว่า รายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจโฆษณามาจาก App Store รวมถึงแอปพลิเคชันของ Apple เองอย่าง Apple News และ Stocks ขณะเดียวกันก็สร้างรายได้ทางอ้อมจากข้อตกลงในธุรกิจโฆษณาที่ทำให้ Google เป็นเสิร์ชเอนจินเริ่มต้นของ iOS ทำให้มีประมาณการว่ารายรับจากความสัมพันธ์ของดีลนี้อาจสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2022 

 

โดยเมื่อรวมกันแล้วพบว่า รายได้จากข้อตกลงของ Google และโฆษณาตรง จะคิดเป็น 30% ของรายได้ในธุรกิจบริการของ Apple และอาจคิดเป็นมากกว่า 40% ของตัวเลขกำไรขั้นต้นจากธุรกิจบริการ

 

Apple นั้นมีบทบาทสำคัญในตลาดโฆษณาออนไลน์ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่เห็นชัดคือการออกกฎใหม่สำหรับ iPhone ที่สร้างปัญหาให้กับบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Meta ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Facebook ที่ต้องอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในการกำหนดเป้าหมายโฆษณาอย่างแม่นยำ 

 

แต่ Apple ทำให้บริษัทเหล่านี้ติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคได้ยากขึ้น นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ที่ Apple จะใช้แนวทางที่ก้าวร้าวมากขึ้นอีก ด้วยการเดินตามสิ่งที่ Google เริ่มไว้แล้วกับ Android

 

Toni Sacconaghi อธิบายทฤษฎีที่คิดขึ้นมานี้ว่า Apple สามารถสร้างธุรกิจ ‘เครือข่ายผู้ชม’ หรือ Audience Network ที่จะวางโฆษณาแบบรูปภาพภายใน Third-Party App หรือแอปของบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นก้าวที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ได้ใช้โมเดลนี้ในแอป Android แล้ว จนสร้างรายได้ประมาณ 14,000-18,000 ล้านดอลลาร์ 

 

Apple

 

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกหาก Apple จะเดินตามและสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการขายโฆษณาบนแอป iOS

 

ในเอกสาร Toni Sacconaghi ชี้ว่า Apple ได้ลองชิมลางในธุรกิจโฆษณามาก่อนแล้วด้วยบริการที่เรียกว่า iAds ซึ่งเปิดตัวในปี 2010 แต่ก็ประกาศปิดตัวลงในปี 2016 เนื่องจาก ‘อัตราการส่งโฆษณาต่ำ’ หรือ Low Fill Rate 

 

เบื้องต้นนักวิเคราะห์เชื่อว่า ความล้มเหลวของ iAds นั้นเกิดจากการบรรจบกันของปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะการที่ Apple ต้องการรักษาเครือข่าย คงไว้ซึ่งกระบวนการสร้างสรรค์ และปกป้องข้อมูลผู้ใช้อย่างแน่นหนา ซึ่ง Toni Sacconaghi เชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะลดถอยลงในอนาคต

 

Toni Sacconaghi ฟันธงว่า Apple สามารถขยายการให้บริการโฆษณาได้เต็มที่ เพราะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Apple สามารถรู้อายุ เพศ และรุ่นอุปกรณ์ที่แน่นอนของผู้ใช้ซึ่งลงทะเบียนกับบัญชี Apple ID 

 

แถม Apple ยังรู้ด้วยว่าผู้ใช้สนใจหัวข้อใดบ้างจากการโต้ตอบกับ Apple News และ Stock ขณะเดียวกันก็รู้ว่าผู้ใช้เพลงฟังอะไร อ่านหนังสืออะไร ดูอะไร และมีการสมัครรับข้อมูลใด

 

นอกจากนี้ Apple ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบของผู้ใช้กับโฆษณาที่ส่งโดยแพลตฟอร์มโฆษณาของ Apple ดังนั้นหาก Apple ใช้แนวทางนี้จริง Toni Sacconaghi ชี้ว่า เครือข่ายโฆษณาอื่นจะมีผลกระทบเชิงลบอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่เพียง Meta และ Alphabet แต่ผู้เล่นในเครือข่ายโฆษณาที่มีขนาดเล็กกว่าที่ขายโฆษณาภายในแอปก็จะเจ็บหนักไปตามกัน

 

Apple

 

ไม่ว่าสถานการณ์จะดุเผ็ดขนาดไหน Apple จะมี ‘ตัวเร่งหลัก’ ที่สามารถกระตุ้นให้มูลค่าตลาดทะลุเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือแม้แต่ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ไม่ยาก

 

ภาพ:  Courtesy of Apple 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising