×

Apple ทุ่มกว่าแสนล้านดอลลาร์ ประกาศซื้อหุ้นคืน หลังยอดขาย iPhone ร่วง 10%

03.05.2024
  • LOADING...
Apple ซื้อหุ้นคืน

เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า หุ้นของ Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำ ขยับเพิ่มขึ้น 7% ในช่วงการซื้อ-ขายเพิ่มเติมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 พฤษภาคม) หลังจากที่ผู้ผลิต iPhone รายนี้เปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่แสดงให้เห็นว่า รายได้ไตรมาสล่าสุดของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการกันไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งทาง Apple ยังได้ประกาศขยายระยะเวลาโครงการซื้อคืนหุ้นออกไป

 

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของ Apple ระบุว่า ทางคณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มวงเงินซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นอีก 1.10 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้น 22% จากการอนุมัติแรกสุดที่ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ซึ่งบอร์ดของ Apple ยังอนุมัติแผนการจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น โดยปรับเพิ่มเงินปันผลต่อไตรมาสเป็น 0.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น มีผลตั้งแต่การจ่ายเงินของเดือนพฤษภาคมนี้ 

 

ข้อมูลจาก Birinyi Associates ชี้ว่า การซื้อหุ้นคืนล่าสุดนี้ถือเป็นการซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นำหน้าการซื้อคืนครั้งก่อนของ Apple 

 

อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงเผชิญกับความท้าทาย ด้วยยอดขายโดยรวมลดลง 4% ขณะที่ยอดขาย iPhone ลดลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสดังกล่าว โดย ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ชี้ว่า ยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาความล่าช้าในการผลิต iPhone 14 จนทำให้การส่งมอบล่าช้าจากปัญหาอุปทานที่เกิดจากโควิด

 

ทั้งนี้ รายได้สุทธิของ Apple ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 9.075 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะอยู่ที่ 9.001 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดขายของผลิตภัณฑ์ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในกลุ่ม Wearables, Home และ Accessories ต่างปรับตัวลดลงจากที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ โดยลดลง 10%, 17% และ 10% ตามลำดับ มีเพียง Mac เท่านั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ทำให้รายได้รวมของบริษัทลดลง 4% ขณะที่รายได้อีกส่วนหนึ่งมาจากภาคบริการของบริษัทที่ 2.3867 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% ทำสถิติสูงสุดอีกไตรมาส ด้านกำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 2.3636 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 2%

 

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับความเห็นของ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ที่ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ซึ่งระบุว่า ยอดขายและการเติบโตโดยรวมของ Apple ในช่วงไตรมาสเดือนมิถุนายนจะเติบโตในระดับต่ำเพียงเลขหลักเดียว 

 

ปีที่แล้วในช่วงเดือนมิถุนายน Apple ประกาศรายได้ที่ 8.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 

 

ขณะเดียวกันคุกยังชี้แจงด้วยว่า ยอดขาย iPhone ที่ลดลงมาจากฐานที่สูงในปีก่อน เพราะการขาดซัพพลายทำให้ผลิตสินค้าไม่ทัน ซึ่งหากตัดส่วนดังกล่าวที่มีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐออกไป ยอดขาย iPhone ก็เพิ่มขึ้น แต่โดยรวมแล้วยอดขาย iPhone อยู่ที่ 4.5963 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10% ในขณะที่ตลาดใหญ่อย่างจีน แม้จะมียอดขายชะลอตัว แต่ iPhone 15 และ iPhone 15 Pro Max ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดเทียบกับทุกแบรนด์ กระนั้นยอดขายรวมในจีนก็ปรับตัวลง 8% อยู่ที่ 1.6372 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดจีนที่เป็นไปอย่างดุเดือด

 

นอกจากนี้แม้ช่วงต้นปีทางบริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Vision Pro ซึ่งเป็นสินค้าตัวใหม่ของบริษัทในรอบหลายปี แต่ด้วยสนนราคาที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.288 แสนบาท) และฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้หลายฝ่ายมองว่ายังไม่สามารถคาดหวังในเรื่องรายได้จากสินค้าตัวใหม่ของบริษัทได้มากสักเท่าไรนัก ซึ่งซีอีโอของ Apple ก็ยอมรับว่า Vision Pro เป็นเหมือนการเริ่มต้นในการมองหาโอกาสใหม่ๆ ของบริษัท 

 

ในส่วนของสินค้าหลัก เช่น iPad ที่ทางบริษัทไม่มีการเปิดตัว iPad ใหม่มาตั้งแต่ปี 2022 จนทำให้รายได้ไตรมาสล่าสุดจาก iPad ลดลง กระนั้นมีการคาดการณ์ว่า Apple จะประกาศ iPad ใหม่ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นความต้องการสินค้าเรือธงของ Apple ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ 

 

ยิ่งไปกว่านั้น คุกยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า Apple มี ‘แผนการใหญ่ที่จะประกาศ’ จาก ‘มุมมองของ AI’ ในงาน iPad สัปดาห์หน้า รวมถึงในการประชุมนักพัฒนาประจำปีของบริษัทในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising