A Pink Rabbit + Bob คาเฟ่จิ๋วในย่านเก่ากับรสชาติเค้กที่คุ้นเคย

หลังประสบความสำเร็จอย่างยาวนานนับตั้งแต่ It’s Happened to be a Closet ถือกำเนิดขึ้นในฐานะร้านอาหารอิตาเลียนแบบ fine dining ก่อนขยับขยายสู่ร้านอาหารในห้างที่มีขนาดย่อส่วนลงอย่าง A Fox Princess & A Spider ที่ยังคงนำเสนออาหารอิตาเลียนแต่ลดความขึงขังจริงจัง เพราะมาในเมนูจานง่ายสไตล์แคชวล แต่มาวันนี้เมื่อต้องการปักหมุดลงบนถนนท่าเตียนที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่ง Cafe Hopping ทางร้านจึงขอตัดทอนอาหารอิตาเลียนออก แต่คงไว้ซึ่งเมนูเครื่องดื่มและเค้กที่มาแบบเต็มสเกลเทียบเท่าทั้งสองร้านใหญ่ ภายในคาเฟ่ชั้นเดียวขนาดหนึ่งคูหาจึงอัดแน่นด้วยคุณภาพของทั้งกาแฟ เค้ก และอาหารคาวหนึ่งเดียวอย่างข้าวสตูว์หน้าต่างๆ ที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่า ทุกจานที่ถูกส่งต่อถึงมือลูกค้าต้องมาในมาตรฐานเดียวกับร้านใหญ่ ทั้งในแง่รสชาติ คุณภาพของวัตถุดิบ และสไตล์

The Vibe

ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าร้าน เพียงมองจากภายนอกบนฟุตปาธอันแสนพลุกพล่านของท่าเตียน ก็พอบอกได้ว่า ‘คาเฟ่แห่งนี้ไม่ธรรมดา’ เริ่มตั้งแต่ชื่อร้าน การวางคอนเซปต์ การจัดวางเลย์เอาต์ภายในร้าน เรื่อยไปจนถึงขนมเค้กที่วางเรียงรายอยู่ในตู้แช่ ก็ทำให้เราพอรู้ได้ว่าแม้ขนาดจะเล็กกะทัดรัด แต่ที่นี่จริงจังกับกาแฟและเค้กซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของคาเฟ่มากขนาดไหน และเพื่อให้ร้านกลมกลืนกับย่านชุมชนเก่า ผนังบางส่วนจึงถูกทิ้งไว้ให้คงสีเดิม แต่เพิ่มเติมความอบอุ่นด้วยพื้นไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเก่า ส่วนลวดลายบนกำแพงได้มาจากการนำแผ่นเหล็กดัดซึ่งเป็นงานเก่า มาผ่านเทคนิคที่ใช้ในการสกรีนลายเสื้อเพื่อให้เกิดลายบานเฟี้ยมและดอกไม้แปลกตา ผนังรอบด้านแขวนภาพวาดคล้ายแกลเลอรี โต๊ะกลมของจีนเคียงคู่เฟอร์นิเจอร์ฝรั่ง กองหนังสือไกด์บุ๊ก โคมไฟ และแสงไฟนีออนที่แสดงออกถึงความสนุก กระฉับกระเฉงและร่วมสมัย ทั้งหมดนี้ไม่มีคำจำกัดความถึงสไตล์การแต่งร้าน แต่เมื่อเข้ามาแล้วทุกองค์ประกอบต่างๆ กลับเชื่อมโยงกันได้อย่างกลมกลืน ผสมผสานระหว่างโลกเก่า-ใหม่ ร้อยพันเรื่องราวของไทย จีน และฝรั่ง

บานเฟี้ยมและดอกไม้แปลกตา

ถ่ายรูปได้ทุกมุม

ภาพวาดและของประดับตกแต่งร้าน ถ้าถูกใจก็สามารถขอซื้อได้

The Drinks

เมนูกาแฟของที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟ Lavazza จากอิตาลี เราจึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของกาแฟสัญชาติอิตาเลียน ที่แม้ไม่หวือหวาหรือมีลูกเล่นเต็มมือ แต่รสชาติของกาแฟไม่มีบกพร่อง นอกเหนือจากเอสเพรสโซ อเมริกาโน ลาเต้ หรือคาปูชิโนแล้ว สำหรับผู้ที่อยากหลบไอร้อนจากอุณหภูมิด้านนอก จิบเครื่องดื่มเย็นๆ เพิ่มความสดชื่น ลองดูเป็น Iced Coconut Americano (145 บาท) หรืออเมริกาโนเย็นใส่น้ำมะพร้าวอ่อน มอบความหวานละมุนเพียงเล็กน้อย ไม่หวานโดดเหมือนน้ำเชื่อม ประดับด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนด้านบน หรือ Lychee Berry Soda (160 บาท) เครื่องดื่มดับกระหาย สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ Iced Chocolate Cube (160 บาท) ช็อกโกแลตเย็นเพิ่มลูกเล่นตอนยกดื่ม

(ซ้าย) อเมริกาโนร้อน (ขวา) Iced Chocolate Cube

(ซ้าย) Iced Coconut Americano (ขวา) Lychee Berry Soda

หากใครเป็นคอชา ที่นี่ใช้ชาของ French Mariage Freres (240 บาท) มีให้เลือก 3 ชนิด ได้แก่ ชาดำ ชาแดงไร้กาเฟอีน และชาเขียว สามารถเสิร์ฟเป็นซิงเกิลเพื่อให้ได้รสและความหอมที่ใบชา หรือสั่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ประจำร้านอย่าง ชาดำผสมเบอร์รี ชาแดงใส่ส้มและน้ำผึ้ง หรือชาเขียวที่ถูกจับคู่กับขิง สะระแหน่ และผิวมะนาว

สำหรับผู้ที่ติดใจชาอินเดียจากร้านใหญ่ ที่นี่ก็มี Masala Indian Tea (180 บาท) ที่ใส่เครื่องเทศกับขิงตามสูตรต้นตำรับ มอบความเผ็ดร้อนยามยกจิบ

The Desserts

Tiramisu Square

อย่างที่บอกว่า A Pink Rabbit + Bob จัดเต็มเรื่องเค้ก เพราะมีให้เลือกมากกว่า 20 รายการต่อวัน และเป็นสูตรที่ทางร้านทำมากว่า 17 ปี โดยเชฟทีมเดิม หลายคนจึงคุ้นเคยกับหน้าตาและรสชาติของเค้กที่ไม่ว่ากินสาขาไหนก็ได้รสชาติที่ไม่ผิดกัน เช่น Zebra Mascarpone (175 บาท) เค้กช็อกโกแลตเข้มข้นหนักแน่น เสริมมิติด้วยชีสมาสคาร์โปน Apple Crumble (165 บาท) แน่นด้วยชิ้นแอปเปิ้ลด้านในห่อหุ้มด้วยความกรุบกรอบ ก่อนเพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วยซอสวานิลลา หรือ Tiramisu Square (175 บาท) ที่ได้สัมผัสของกาแฟชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษประจำฤดูกาลอย่าง ลอนตาลเมอแรง (195 บาท) ซึ่งมีที่เดียวในโลกและผลิตในปริมาณจำกัดเพราะอยากให้สดใหม่เสมอ

Zebra Mascarpone

Apple Crumble

ลอนตาลเมอแรง มีที่เดียวในโลก

The Foods

เหตุผลที่ทางร้านเลือกข้าวสตูว์ เนื่องจากโจทย์ที่ตั้งไว้ว่า อยากทำเมนูอาหารที่ไม่จำเป็นต้องใช้ครัว อร่อย ซื้อกลับไปอุ่นกินที่บ้านแล้วยังชนะเลิศ อีกทั้งราคายังต้องสมเหตุสมผล คำตอบที่ได้จึงหนีไม่พ้นข้าวสตูว์ที่ปรุงโดยเชฟใหญ่ประจำห้องอาหารอิตาเลียน ข้อดีของสตูว์คือเป็นอาหารที่ยิ่งบ่มไว้นานยิ่งอร่อย ยิ่งเข้าเนื้อ จึงเหมาะทั้งสั่งกินที่ร้านและซื้อกลับบ้าน มีให้เลือกระหว่างสตูว์กุ้งหมึกดำ สตูว์ไก่ทันดูรี (สูตรอินเดีย) สตูว์ Roman Chicken สำหรับคนไม่กินเครื่องเทศ สตูว์ Beef Burgundy หรือเนื้อต้มไวน์ สตูว์ผักล้วน สตูว์ลิ้นวัว และสตูว์มาซาลาแกะ เพียงตักราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ที่มาในชามขนาดพอเหมาะ ก็เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี เมนูนี้ราคาเริ่มต้นที่ 160-180 บาท แล้วแต่ว่าวันนั้นคุณอยากลองเนื้อประเภทไหน