วานนี้ (2 กุมภาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงประเด็นการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ที่สังคมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในเด็กกลุ่มดังกล่าวหลังรับบริการวัคซีน
อนุทินระบุว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนแสดงความกังวลกันพอสมควร เกี่ยวกับการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำลังพิจารณาฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ซึ่งวัคซีนที่ใช้คือ Sinovac เป็นวัคซีนเชื้อตาย
“ผมขอทำความเข้าใจกันตรงนี้ก่อน ว่าเรายังไม่ได้ฉีดให้เด็ก 3 ขวบคนไหน การที่เราจะฉีดได้ ไม่ว่าจะฉีดให้เด็ก 3 ขวบ หรือใครก็ตามนั้น จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน ซึ่งในประเด็นนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะประชุมพิจารณาในรายละเอียด ไปจนถึงแนวทางการใช้ในวันศุกร์นี้ (4 กุมภาพันธ์) โดยการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์
“อย่างไรก็ตาม ในการฉีดวัคซีนให้เด็ก เรามีคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันวัคซีนฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นคณะกรรมการวิชาการที่ สธ. และรัฐบาลเชื่อถือว่ามีความรู้ มีประสบการณ์ทางการแพทย์มากเพียงพอในการให้คำแนะนำแนวทางการใช้วัคซีนให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด”
“ที่เราต้องการฉีดให้เด็ก เพราะต้องการให้การฉีดวัคซีนนั้นครอบคลุมทุกช่วงวัยมากที่สุด เพราะวัคซีนช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเกราะชั้นดี ดังนั้นทุกคนก็สมควรมีสิทธิ์ได้สวมเกราะป้องกันโรค แต่การฉีดให้เด็กนั้น เราขอย้ำว่า ต้องให้ผู้ปกครองอนุญาตเราถึงจะฉีดได้ครับ” อนุทินกล่าว