วันนี้ (24 พฤษภาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ AstraZeneca ให้ได้ 12 โดสต่อ 1 ขวด ว่า ไม่ได้กำหนดเป็นนโยบายว่าต้องได้ 12 โดส แต่บอกว่าพยายามดึงยาให้ได้ โดยสิ่งที่ต้องย้ำคือต้องได้โดสละ 0.5 ซีซีตามมาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนตามที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด ทุกคนจะได้วัคซีนครบโดสเป็นมาตรฐานเดียวกันหมดจากขวดเดียวกัน
ส่วนกรณีหน่วยบริการหลายแห่งเลื่อนฉีด AstraZeneca เข็มที่ 2 ออกไป เนื่องจากกังวลเรื่องวัคซีนจะมาไม่ทันตามกำหนดนั้น ขอชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้กำหนดส่งในวันที่ 1 มิถุนายน แต่จะเริ่มจัดส่งภายในเดือนมิถุนายน และทางบริษัทก็รับทราบกำหนดการที่รัฐบาลวางแผนฉีดวัคซีนแบบปูพรมอยู่แล้ว
“ประเทศไทยยังมีวัคซีน Sinovac พร้อมอยู่ และมั่นใจว่า AstraZeneca จะส่งวัคซีนตามข้อกำหนด โดยสัญญาระบุว่าหากวัคซีนที่ผลิตในไทยยังจัดส่งไม่ได้ก็ต้องจัดหามาจากแหล่งผลิตอื่นส่งให้ไทย ยืนยันเรามีวัคซีนฉีดให้กับพี่น้องประชาชนตามกำหนดของรัฐบาลแน่นอน และในช่วงบ่ายวันนี้ Pfizer ได้มาหารือเกี่ยวกับเอกสารสำหรับยื่น ถือเป็นการนับหนึ่ง ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน อย่าไปกังวล” อนุทินกล่าว
สำหรับในวันที่ 7 มิถุนายน ที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม จะใช้วัคซีนที่มีทั้งหมดในประเทศไทย ไม่เฉพาะวัคซีนของ AstraZeneca ทุกคนจะได้รับวัคซีนที่ดี มีมาตรฐานที่เหมาะสม สำหรับการรับรองวัคซีน Sinovac ทางบริษัทผู้ผลิตได้ยื่นเรื่องกับองค์การอนามัยโลกแล้ว อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม วัคซีน Sinovac ก็ถูกตรวจสอบและรับรองจากสถาบันการแพทย์หลายสถาบันว่าเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพสูง รวมทั้งในไทยผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจากข้อมูลการฉีดไปกว่า 3 ล้านโดส พบว่ามีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงเช่นกัน ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีทางเอาวัคซีนที่ไม่มีคุณภาพมาฉีดให้ประชาชน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล