วานนี้ (15 มิถุนายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ‘ปลดล็อกกัญชาเสรี สร้างเศรษฐกิจ สร้างสุขภาพ’ ในพิธีรับมอบตำรับยากัญชาของหมอพื้นบ้านให้เป็นตำรับยาแผนไทยของชาติ โดยยืนยันว่าการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา มุ่งใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ซึ่งอธิบายด้วยคำจำกัดความอยู่แล้วว่าไม่มีเสรีกัญชาเพื่อสันทนาการ การสูบ และการเสพ
ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาของการใช้ในขณะนี้คือ การเสพ และการใช้เกินจากระดับที่ปลอดภัย ซึ่งกัญชาไม่ต่างกับพืชหรือยาอื่นๆ ที่ต้องมีการใช้อย่างเหมาะสม หากใช้เกินความจำเป็นหรือเกินระดับความปลอดภัยก็เป็นอันตรายได้ แต่หากใช้ตามที่แพทย์สั่งจ่ายหรือแนะนำ ยังไม่พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ สำหรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่ผ่านการรับหลักการของสภาแล้วนั้น คณะกรรมาธิการที่แต่งตั้งขึ้นทั้งจากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ผู้ทรงคุณวุฒิ และข้าราชการประจำ ได้รับฟังทุกฝ่าย ทุกข้อเสนอแนะ และทุกข้อกังวล เพื่อกลั่นกรองแก้ไขเพิ่มเติมจนทุกฝ่ายเห็นชอบเพื่อกลับมานำเสนอสภาชุดใหญ่ เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และลดความกังวลของประชาชนมากที่สุด โดยเชื่อว่าจะรักษาสมดุลระหว่างโอกาสของประชาชนและรักษาสิทธิ เสรีภาพ ความปลอดภัยของประชาชนให้ได้มากที่สุดตามเจตนารมณ์
อนุทินกล่าวต่อไปว่า ส่วนข้อกังวลเรื่องการใช้กัญชาในเด็ก เยาวชน และพื้นที่สาธารณะ ขณะนี้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดกลิ่นและควันกัญชาเป็นเหตุรำคาญ ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งจะช่วยควบคุมการใช้ในพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นโรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเข้าข่ายเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่จำเป็นต้องออกประกาศเพิ่มเติม
นอกจากนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อพิจารณาออกแนวทางการควบคุมเพื่อคลายความกังวลในส่วนนี้ โดยจะออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ซึ่งจะกำหนดอายุ กลุ่มคน และสถานที่ในการใช้ เช่น ผู้ที่จะเข้าถึงกัญชาได้ต้องมีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป และไม่ใช่สตรีตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เป็นต้น โดยหลังจากนำเสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะยกร่างเพื่อเสนอให้ตนพิจารณาลงนามโดยเร็วที่สุด เชื่อว่าจะช่วยควบคุมระหว่างยังไม่มีกฎหมายกัญชาออกมาได้