วันนี้ (24 มีนาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่การรับประทานข้าวกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าเป็นการดีลตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ว่าไม่มี เป็นเรื่องที่พูดไปเรื่อย เป็นเรื่องเฮฮาระหว่างกินข้าวเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการพูดอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำว่าคนที่อยู่บนโต๊ะอาหารไม่ควรนำเรื่องที่พูดคุยกันออกมาพูด เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่เป็นทางการเลย
อนุทินกล่าวต่อไปว่า เรื่องการเจรจาตำแหน่งนายกฯ ยังไม่ถึงเวลา และพรรคภูมิใจไทยพูดมาเสมอว่าพรรคเราเกรงใจพี่น้องประชาชน จะทำอะไรให้นึกถึงผลการเลือกตั้ง ดังนั้นต้องให้รับทราบผลการเลือกตั้งก่อนถึงจะดำเนินกิจกรรมว่าจะไปทิศทางไหน ซึ่งตนเองมีความชัดเจนเสมอ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บนโต๊ะอาหารใครที่อยู่ในขั้วรัฐบาล ใครได้เสียงมากที่สุดก็เป็นนายกรัฐมนตรีไปใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เราพูดกันแค่นี้แล้วก็หัวเราะ แต่ตนเองไม่ได้พูด มีแค่ส่ายหัวปลกๆ แต่มีคนไปออกรายการแล้วแอบอ้างเรื่องแบบนี้ ตัวเองคิดว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาท
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวดีล 4 พรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อนุทินตอบว่า “ยังไม่มีอะไรที่เป็นทางการว่าจะเอาแบบนั้น”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการวิจารณ์อนุทินว่าเดี๋ยวเข้าหา พล.อ. ประยุทธ์ เดี๋ยวเข้าหา พล.อ. ประวิตร อนุทินกล่าวว่า ตนเองเรียกทั้งสองคนว่าพี่ ทั้งสองท่านอายุมากกว่า พร้อมยกตัวอย่างว่าจะให้ตนเองบอกว่า “พี่มาหาผมหน่อย” ด้วยวัยวุฒิ และด้วยความที่เราเคารพนับถือ มันได้หรือไม่ และการที่ตนไปพบท่านนายกฯ เมื่อ 11 โมงเช้าของวันพุธที่ผ่านมานั้น ก็เข้าไปเพื่อกราบอวยพรวันเกิดตามประเพณีที่ดีของคนไทย ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่อาจเดินสวนแล้วตะโกนแฮปปี้เบิร์ทเดย์ได้ เราต้องไปอย่างเป็นทางการ และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และก็ได้เรียนท่านด้วยว่าเดี๋ยวตนจะขออนุญาตไปทานข้าวกับ พล.อ. ประวิตร เพราะนัดกันไว้ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เปิดเผย และเป็นการกินข้าวตามปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การกินข้าวในครั้งถัดไปกับ พล.อ. ประวิตร มีชื่อของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมาร่วมกินข้าวด้วยใช่หรือไม่ อนุทินตอบสั้นๆ ว่า “ไม่มี”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพการกินข้าวถูกปล่อยมาถี่ขึ้นเป็นนัยทางการเมืองหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทำไมทุกคนต้องคิดว่าจะกินข้าวกันไม่ได้ พร้อมมองภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากคนภายในโต๊ะอาหารนั้นตนเองก็ไม่เข้าใจ ขอให้พิธีกรสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเลิกพูดว่าตัวเองเป็นคนถ่าย เราไปกันแค่สามคน คือ ตน, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ และ ชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นคนอยู่ในรูปทั้งสิ้น แสดงว่ารูปดังกล่าวไม่ได้มาจากฝ่ายตน แต่ใครจะถ่ายหรือเผยแพร่นั้น เวลาที่ไปบ้าน พล.อ. ประวิตร ตนเองก็ไม่มีปัญหาอะไร หากซีเรียสจริงๆ ก็คงพูดคุยไปแล้วว่าอย่าให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งตนเองไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว ยิ่งใกล้เลือกตั้งเขาก็ต้องการข้อมูลของเรา เราก็ต้องการข้อมูลของเขา จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อะไรที่เราเปิดเผยได้ เราก็จะเปิดเผย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยินดีจะให้ พล.อ. ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ใครได้เสียงมากที่สุดคนนั้นเป็นนายกฯ เป็นกติกาสากล หากพรรคภูมิใจไทยได้มากที่สุด พรรคภูมิใจไทยต้องได้เป็นนายกฯ เพราะถ้าเราได้เสียงมากแล้วจะเอาตำแหน่งไปให้คนอื่นจะไปมองหน้าประชาชนได้อย่างไร
