×

“ขายแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืนก็ผิดแล้ว” อนุทินบอกผับมหาสารคามเปิดเกินเวลาต้องดำเนินคดี ย้ำเปิดผับตี 4 กระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่

โดย THE STANDARD TEAM
20.12.2023
  • LOADING...
อนุทิน ชาญวีรกูล

วันนี้ (20 ธันวาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พบสถานบันเทิงในจังหวัดมหาสารคามเปิดเกินเวลาโดยไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดถึงเวลา 04.00 น. ว่ามหาสารคามอยู่นอกโซนนิ่ง ถ้าร้านดังกล่าวขายเครื่องแอลกอฮอล์ก็ต้องถูกดำเนินคดี แค่ขายแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืนก็ผิดแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปกวดขัน 

 

ส่วนในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต อนุทินระบุว่า จากที่ตนไปตรวจเยี่ยมพบว่าให้ความร่วมมือดี ในส่วนร้านที่ไม่ได้รับใบอนุญาตนั้น ตนเห็นว่าเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนเขาก็ปิด แต่ทั้งนี้ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือช่วยกันรักษาระเบียบ ลดความเสี่ยงต่างๆ เราก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเอื้อเฉพาะผู้ที่ได้รับใบอนุญาต  

 

เพิ่มโซนนิ่งเปิดผับถึงตี 4 ต้องรอประเมิน 1 ปี

 

อนุทินกล่าวว่า ตนมีหน้าที่คิดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งชัดเจนว่ากระตุ้นได้แน่นอน ถ้าสามารถทำให้คนทำมาหากินและมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งบริกร เชฟ คนขับแท็กซี่ การ์ด คนขายอาหารตอนกลางคืน หรือแม้กระทั่งคนนวดแผนโบราณก็สามารถรับลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ ส่วนการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ต้องมานั่งคิดกันต่อ โดยจะต้องนำมาหารือกับนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้สั่งการนโยบายนี้ เนื่องจากอำนาจกระทรวงมหาดไทยมีแค่นี้ ถ้าจะให้มีมากกว่านี้ต้องให้มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาร่วมด้วย

 

เมื่อถามว่าจะต้องมีการประเมินการเปิดโซนนิ่งเรื่องเปิดถึงเวลา 04.00 น. เพื่อขยายไปยังพื้นที่อื่นด้วยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่าอาจจะต้องขอประเมินปีหนึ่งไหวหรือไม่ ถ้าประเมินแล้วมีความพร้อมทุกฝ่ายก็ทำได้ทั้งนั้น และต้องไปดูว่ากฎหมายทำได้แค่ไหน แต่ที่ยากคือการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพราะต้องรอเข้าการพิจารณาในสภา แต่ถ้าเป็นในส่วนของประกาศกระทรวง หรือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี หรือใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ไปพลางๆ ก่อน ถ้าใช้ช่องไหนให้เป็นประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดโทษก็จะทำ

 

สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

อนุทิน​กล่าวถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นำผลการประเมินค่าฝุ่นละออง PM2.5 มาเป็นการชี้วัดค่า KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ​ ว่า​ถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจงาน​ โดยตนยังไม่ทราบในรายละเอียด และปลัดกระทรวงมหาดไทยอาจเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งหากผลไม่เป็นไปตามเกณฑ์อาจมีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย​ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปลัดกระทรวงมหาดไทย​ ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี การทำงานต้องมีการวัดผลงานการปฏิบัติงาน

 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องฝุ่นละออง​ PM​2.5 มีเรื่องภัยธรรมชาติเข้ามาด้วยนั้น​ อนุทิน​กล่าวว่า ภัยธรรมชาติ​เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ​เช่น ความกดอากาศที่ทำให้ฝุ่นไม่สามารถไปไหนได้​ แต่ส่วนใหญ่มาจากมนุษย์​ สิ่งที่เลวร้ายคือการเผาซากจากการทำการเกษตร​ เผาป่า​ และการสัญจร​ ซึ่งไม่ถึงกับแก้ไขไม่ได้​ ผู้ว่าราชการจังหวัด​ในฐานะพ่อเมืองหากบังคับใช้กฎหมาย​อย่างเต็มที่​ก็จะช่วยไ​ด้มาก​

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising