×

อนุทินเผย ไม่เหนื่อยกาย แต่เหนื่อยใจ หลังผลักดันนโยบายกัญชา นำร่องปลูกครัวเรือนละ 6 ต้น

โดย THE STANDARD TEAM
11.02.2021
  • LOADING...
อนุทินเผย ไม่เหนื่อยกาย แต่เหนื่อยใจ หลังผลักดันนโยบายกัญชา นำร่องปลูกครัวเรือนละ 6 ต้น

วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยระหว่างกิจกรรมการมอบต้นกล้ากัญชาแก่ประชาชน 7 ครัวเรือน ไปทดลองปลูก ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนมาลัย บ้านโศกนาค ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการนำร่องนโยบายการให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ครัวเรือนละ 6 ต้น มีจุดประสงค์เพื่อใช้ทางการแพทย์ 

 

อนุทินกล่าวว่า ตนดีใจที่เห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนมาช่วยกันผลักดันนโยบายให้เรื่องของการปลูกกัญชาในระดับครัวเรือนมีความเป็นรูปธรรม ก็หวังว่าสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจไว้จะสำเร็จในเร็ววันนี้ ปัจจุบันนี้การปลูกกัญชาประชาชนมีสิทธิ์ผ่านการรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน และร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อปลูกกัญชาโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในทางการแพทย์ 

 

อนุทินกล่าวอีกว่า นโยบายนี้ได้เดินหน้าไปแล้ว 46 จังหวัด คิดเป็นประชาชนประมาณ 2,500 ครัวเรือน โดยมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเข้าร่วม 251 แห่ง ปลูกกัญชาไปแล้ว 15,000 ต้น จากนี้กัญชาจะมีสถานะเป็นพืชที่ให้ประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ 

 

อนุทินกล่าวด้วยว่า การผลักดันนโยบายกัญชานั้นไม่เหนื่อยกายแต่เหนื่อยใจ ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่เข้าใจว่ากัญชาสามารถนำมาทำเป็นประโยชน์ได้ และพยายามหาทางขัดขวาง โดยไม่สนใจเลยว่ากัญชาจะมีคุณมีโทษก็ขึ้นกับวิธีการใช้ ทางภาครัฐกำลังพยายามหาทางนำกัญชามาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด อย่าไปมองว่ากัญชามีแต่โทษ เพราะจะทำให้เสียโอกาสกันทั้งหมด ก็หวังว่าความพยายามของภาครัฐในการนำกัญชามาใช้ประโยชน์จะทำให้สังคมเข้าใจข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้น

 

“นโยบาย 6 ต้นไม่ได้ล้มเหลว ท่านสามารถปลูกในพื้นที่ของท่านได้ อาจจะมากกว่า 6 ต้นด้วย แต่ขอให้ทำตามกฎหมาย และขณะนี้ก็มีการปลูกอย่างถูกต้องในทั่วประเทศ สามารถใช้เป็นต้นแบบการเริ่มต้นปลูกได้เลย” อนุทินกล่าว

 

อนุทินกล่าวต่อด้วยว่า การตีตราจากโลกว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ก็ทำให้การใช้ประโยชน์จากกัญชาในประเทศไทยมีข้อจำกัดไปด้วย เพราะเราอยู่ในเวทีโลกนานาชาติ เราอยู่ในสนธิสัญญาการประกาศต่างๆ 

 

ดังนั้น การนำกัญชามาใช้ทำประโยชน์จึงไม่มีการพัฒนามาเลยหลายสิบปี ทำให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยในเรื่องกัญชาแทบจะสูญหายไป ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เพราะผิดกฎหมาย และมีความรู้สึกว่ากัญชาคือสิ่งที่ไม่ถูกต้องถ้าเราเข้าถึงแบบไม่ถูกต้อง แต่จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์มากถ้าเราเข้าใจและใช้ประโยชน์จากกัญชา

 

แม้วันนี้กฎหมายยังกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด และมีเงื่อนไขต่างๆ มากมายในการใช้ประโยชน์จากกัญชา และได้เสนอการแก้กฎหมายไปแล้ว เพื่อให้พี่น้องประชาชน ผู้ป่วย หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย สามารถปลูกกัญชาและใช้ประโยชน์จากกัญชาได้ง่ายขึ้น มากขึ้น เพื่อรักษาภูมิปัญญาของไทย นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพกับประชาชนให้มากที่สุด การแก้ไขกฎหมายทางคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหมดแล้ว อยู่ในขั้นตอนส่งไปให้รัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขต่อไป ระหว่างรอได้ใช้ทุกช่องทางเพื่อคลายล็อกให้ได้มากที่สุด ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชน

 

“สำหรับโครงการปลูกกัญชา 6 ต้น ‘โนนมาลัยโมเดล’ จะเป็นต้นแบบของความสำเร็จ และขยายผลไปสู่วิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างจริงจัง จริงใจ และที่สำคัญที่สุด จะต้องเคารพกฎกติกาอย่างเคร่งครัด กระทรวงสาธารณสุขยินดีที่จะเป็นแกนหลัก และสนับสนุนให้มีโมเดลแบบนี้ทั่วประเทศ” อนุทินกล่าวทิ้งท้าย

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising