ทุกวันนี้ยังมีคนที่เชื่อและคลั่งไคล้ในความผอม เพราะคิดว่า ผอม = สวย ซึ่งแนวคิดแบบนี้ถือเป็นความผิดปกติทางอารมณ์อย่างรุนแรงอย่างหนึ่ง จนก่อให้เกิดโรคคลั่งผอม หรือ Anorexia Nervosa ได้ ในทางการแพทย์อธิบายเกี่ยวกับโรคคลั่งผอมว่า คนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะมีความกลัวว่าตัวเองจะน้ำหนักเกิน กลัวอ้วน และคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีน้ำหนักที่น้อยที่สุด จนเกิดความผิดปกติต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร บ้านับแคลฯ เครียด รู้สึกหมกมุ่นกับสิ่งที่จะกินเข้าไปในร่างกาย ซึ่งอาการไม่อยากอาหารของโรคคลั่งผอม ในอีกด้านหนึ่งมันเกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตนเอง โดย 46% ของผู้ที่เป็นโรคคลั่งผอม สามารถฟื้นตัวหายจากโรคได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยการรักษาทั้งจิตแพทย์ พยาบาลเฉพาะทาง และนักโภชนาการ นอกจากนี้ยังต้องอาศัยการบำบัดความคิดและพฤติกรรมควบคู่กันไป โดยแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ จะวินิจฉัยและถามคำถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครัว น้ำหนัก นิสัยการกิน ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าคนที่เป็นโรคนี้จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แผนการรักษาจะเกี่ยวกับจิตบำบัด และการให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เกี่ยวกับการรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ ซึ่งการฟื้นฟูสู่สภาพปกติของคนที่เป็นโรคคลั่งผอมนั้นส่วนใหญ่จะใช้เวลานานหลายปี เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน THE STANDARD POP จึงชวนผู้อ่านมาสำรวจตรวจเช็กตัวเองว่าเข้าข่ายเป็นโรคคลั่งผอมหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาและปรับมายด์เซ็ตตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้อาการผิดปกติไปถึงขั้นรุนแรงเกินไป
- กลัวตัวเองจะน้ำหนักขึ้นตลอดเวลา
- หมกมุ่นกับเรื่องรูปร่าง และความผอม
- นับแคลอรีมากเกินไปกับทุกอย่างที่กิน
- หมกมุ่นกับการควบคุมอาหารแบบสุดโต่ง
- ล้วงคอหลังรับประทานอาหาร
- ชั่งน้ำหนักตัวเองบ่อยๆ
- ชอบส่องกระจกเช็กรูปร่างตัวเองซ้ำๆ
- หมกมุ่นกับการออกกำลังกายมากเกินไป
- ปลีกตัวจากสังคม
- หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย ขาดสมาธิ
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
