หลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เรื่องการปรับระดับพื้นที่ควบคุม มีผลให้ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) และทำให้สามารถเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ก็ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร และมีมติเห็นชอบให้มีมาตรการผ่อนคลายสถานที่ให้สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ รวมถึงการขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง มีรายละเอียดดังนี้
สถานที่ที่สามารถเปิดให้บริการได้ ได้แก่
- ร้านอาหาร/เครื่องดื่มทั่วไป เปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น.
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ
- โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม เปิดได้ โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศ เตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
- ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ตามปกติ แต่งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด
- โรงมหรสพ โรงละคร ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
- โรงภาพยนตร์ เปิดได้ โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่ง
- ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ทุกประเภท เปิดได้ โดยผู้ใช้บริการงดบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม และงดการจัดกิจกรรม
- สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ทำเล็บ ร้านสัก เปิดให้บริการผ่านการนัดหมาย (ร้านสัก เฉพาะผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง)
- สปา นวดแผนไทย ให้บริการเฉพาะนัดหมาย (เฉพาะการให้บริการประเภทใช้น้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง)
- สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำ กิจกรรมทางน้ำ เปิดได้
- ยิม/ฟิตเนส ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด (หากมีการอบตัวหรืออบไอน้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง)
- สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์เด็กพิเศษ ให้สำนักอนามัย กทม. พิจารณาเปิดตามความเหมาะสม
- ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ได้รับวัคซีนครบ และมีการสุ่มตรวจเจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์)
- การใช้สนามกีฬาเพื่อการแข่งขัน ผู้เข้าชมต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง
- โรงเรียนสอนมวย ศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สถาบันลีลาศ ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
- สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก เปิดได้
- ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง เปิดได้
- สวนสัตว์ สถานที่จัดแสดงสัตว์ เปิดได้
- สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง เปิดได้ โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศ เตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
- สนามเด็กเล่น เครื่องเล่น ให้สำนักงานเขตพื้นที่พิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม
สำหรับสถานที่/กิจการที่สามารถเปิดได้ภายใต้มาตรการที่ทางราชการกำหนดและมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) โดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องมีมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-FREE Setting) ได้แก่
- สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร (ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง)
- สวนน้ำ สวนสนุก
สำหรับสถานที่ซึ่งยังคงให้ปิดดำเนินการ ได้แก่
- สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด
- ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ตู้เกม
- สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา และสนามม้า
รวมทั้งห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลเกิน 1,000 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.