สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทยยังคงมีปัญหา และสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก และปริมาณน้ำก็ยังสะสมมากอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ พ.อ. วินธัย สุวารี ในฐานะโฆษก คสช. ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำที่มีค่อนข้างมากในปีนี้ว่า สืบเนื่องจากประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนตาลัส พายุโซนร้อนเซินกา พายุไต้ฝุ่นทกซูรี และพายุดีเปรสชัน เมื่อเปรียบกับ ณ เวลาเดียวกันในปี 2554 มีปริมาณน้ำฝนรวมสะสมที่ 1,798 มิลลิเมตร ในทางสถิตินับว่ามีปริมาณใกล้เคียงกัน
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจาก นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สถานการณ์อุทกภัยน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 10-29 ตุลาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 78 อำเภอ 479 ตำบล 2,815 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 125,716 ครัวเรือน 326,072 คน ผู้เสียชีวิต 10 ราย
และปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 17 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย, พิจิตร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, สิงห์บุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, ชัยนาท, สุพรรณบุรี, หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี รวม 60 อำเภอ 395 ตำบล 2,160 หมู่บ้าน 111,434 ครัวเรือน 292,701 คน
ล่าสุดวันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเป็นการเร่งด่วน ณ จังหวัดอ่างทอง โดยออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ไปยังโรงเรียนวิเศษไชยชาญ ตันติวิทยาภูมิ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ก่อนจะนั่งรถต่อไปยังเทศบาลตำบลบางจัก เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมจากผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยอำเภอวิเศษชัยชาญ
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางต่อไปยังหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอำเภอป่าโมก และพบปะให้กำลังใจประชาชนก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับจังหวัดอ่างทอง ปัจจุบันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 5 อำเภอ 30 ตำบล 92 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,595 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวน 6,017 ไร่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยในปีนี้ปริมาณน้ำถือว่าใกล้เคียงกับปี 2554 แต่การบริหารจัดการน้ำถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี ทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรงเท่ากับปี 2554 ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำและแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนไม่ได้ทำฉาบฉวย
“เราต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนเรื่องทางการเมืองหรือใครจะพูดอะไรก็ให้เขาว่ากันไป ผมยืนยันว่าจะแก้ปัญหาของประชาชนอย่างดีที่สุดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ต้องห่วง รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ ผมไม่ได้โทษอะไร เพียงแต่อยากจะบอกว่าประเทศไทยมี 77 จังหวัดเราต้องแก้ปัญหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“ยืนยันว่าผมจะดูแลทุกคนอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะผู้เดือดร้อนจะต้องได้รับการแก้ไขและเยียวยา และไม่รู้ว่าจะมีการปล่อยข่าวกันไปทำไมแต่ผมไม่สนใจ ผมไม่ท้อ ยืนยันว่าผมทนได้ สักวันหนึ่งก็จะรู้เองว่าเราทำงานอะไรกันไปบ้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านได้มีรับสั่งไว้ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ก็ได้มาสานต่อ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะทำทุกอย่างเต็มกำลังความสามารถ” นายกรัฐมนตรีกล่าว