นักวิเคราะห์และนักกลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีความเห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปัจจุบันอาจจะซื้อขายกันแพงเกินไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความคาดหวังของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน หลังจากได้รับข่าวดีเรื่องการค้นพบวัคซีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่า สำนักวิจัยและที่ปรึกษาการลงทุนหลายแห่งเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2564 ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายปัจจัยที่ยังไม่คลี่คลาย
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2563 กำลังหาทางกลับเข้าสู่ภาวะปติ หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นในปลายไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ข่าวดีเรื่องการค้นพบวัคซีนที่มีโอกาสประสบผลสำเร็จสูงได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสูงอย่างมากจนเกือบเท่ากับช่วงตลาดหุ้นยุค Dot Com
อย่างไรก็ตาม ตลาดดูเหมือนจะมองข้ามปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่ และมองไปถึงการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในปี 2564 กันแล้ว สะท้อนจากดัชนี S&P 500 ที่ปิดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน
“แรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นรายบริษัทในตอนนี้ ซื้อด้วยความคาดหวังว่าบริษัทนั้นจะได้รับอานิสงส์จากการค้นพบวัคซีน หลังจากที่ได้รับผลกระทบมานาน และดูเหมือนทุกอย่างจะเร็วไปมาก ตอนนี้นักลงทุนซื้อขายจากการมองไปข้างหน้า 3 หรือ 4 ไตรมาส จากปกติที่จะมองไปข้างหน้า1 ไตรมาส” แรนดี้ เฟรดเดอริก รองประธานด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์จาก Schwab Center for Financial Research กล่าว
ปัจจุบันนักลงทุนโฟกัสไปที่การค้นพบวัคซีนที่ Pfizer Inc. และ BioNTech SE ประกาศออกมา ซึ่งแม้จะยังต้องมีการพัฒนาการรักษาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิต การจัดจำหน่าย และประสิทธิภาพที่แท้จริงของวัคซีน แต่เม็ดเงินลงทุนก็ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยนักลงทุนเทขายหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีทันที และเข้าซื้อหุ้นขนาดเล็กและกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นที่พร้อมได้รับประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว สะท้อนจากดัชนี Nasdaq 100 ที่เป็นกลุ่มดัชนีสายเทคฯ ที่ปรับลดลง 1% ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ Russell 2000 ของ Small-Caps เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% สร้างสถิติสูงสุดป็นประวัติการณ์ และหุ้นธนาคาร KBW ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยเพิ่มขึ้น 11%
การประกาศค้นพบวัคซีนดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทส่วนใหญ่ปรับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของปี 2564 ใหม่ ขณะเดียวกัน S&P 500 ปิดการซื้อขายในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซื้อขายที่ PE ประมาณ 22 เท่าของประมาณการกำไรปี 2564 ที่ 165 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตประมาณ 22%
นักกลยุทธ์การลงทุน JPMorgan Chase & Co เพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 สำหรับ S&P 500 ขึ้น 8 ดอลลาร์ เป็น 178 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากมูลค่าการคาดการณ์นี้ทำให้ S&P 500 ซื้อขายบน PE ที่ลดลงเหลือ 20 เท่า
มาร์ก ฟรีแมน ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Socorro Asset Management LP กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วการประเมินมูลค่าที่สูงมากจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข่าววัคซีนจึงเป็นก้าวสำคัญในการตรวจสอบความคาดหวังของตลาด
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: