เชฟใหญ่ชาวฝรั่งเศส อาร์โน ดูนัง เคยบอกกับเราตั้งแต่เจอกันครั้งก่อนว่า อยากให้ทุกคนตั้งตารอร้านชำควบร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ของเขาที่ชื่อว่า ‘Alpea’ เพราะจะเปิดในพื้นที่เดียวกับ Maison Dunand ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์ฝรั่งเศสที่เชฟเพิ่งคว้าดาวมาประดับได้สำเร็จ
ทว่าร้านชำมื้อสายจะมีบรรยากาศชิลกว่า มาพร้อมเมนูอาหารจานอะลาคาร์ต ไวน์ และวัตถุดิบที่คุณแวะมาซื้อได้ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นโคลด์คัต ชีส ขนมอบ ขนมปัง ไปจนถึงเครื่องปรุงที่เชฟเลือกใช้
ร้านแบ่งพื้นที่เป็น 2 ชั้น เริ่มจากด้านล่างเป็น Grocery ร้านชำขายวัตถุดิบที่เปิดให้ทุกคนมานั่งจิบกาแฟกับเบเกอรีเป็นมื้อเช้า หรือชวนกันแวะมานั่งเล่นกินขนมด้วยกันตอนบ่าย
ส่วนชั้นบนเมื่อเดินขึ้นไปจะพบกับอีกบรรยากาศที่หากใครเคยไปนั่งชิมอาหารที่ Maison Dunand อาจสัมผัสได้ว่าคล้ายกันนิดหน่อย ทั้งกำแพงหิน คานไม้ หรือการใช้หนังวัวตกแต่ง
ทว่า Alpea ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกว่าและเน้นรสชาติกับเมนูอาหารที่มาจากแคว้นซาวอย สถานที่ที่เชฟอาร์โนเติบโตมา
มาถึงเรื่องอาหาร ทุกเมนูจะเน้นปรุงตามฉบับดั้งเดิม ผสมเทคนิคทำอาหารสมัยใหม่ตามสไตล์เชฟนิดหน่อย และมีให้เลือกตั้งแต่สตาร์ทเตอร์ เครื่องเคียง อาหารจานใหญ่ อาหารทะเล ไปจนถึงขนมหวาน
เชฟอาร์โนบอกว่า เมนูที่เขาอยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองก็เริ่มจาก Signature Beef Tartar (980 บาท) เป็นทาร์ทาร์เนื้อวัวผสมสแกลลอปจากรัฐยูทาร์ ด้านล่างเป็นสแกลลอปครีม ท็อปด้วยเมล็ดมัสตาร์ดและขนมปังกรอบ เมนูนี้มาคู่กับชิปส์กรอบๆ กินแล้วเข้ากันดี
Homemade Foie Gras Terrine (880 บาท) เป็นอีกเมนูห้ามพลาดเช่นกัน เพราะเสิร์ฟฟัวกราส์เนื้อเนียนผสมคอนญัก เนื้อสัมผัสครีมมี่ มาให้กินคู่กับขนมปังบริยอชกรอบๆ จานนี้เรากินเพลินไม่รู้ตัวเลยล่ะ และหากใครกลัวความคาว เราว่าเชฟกลบกลิ่นได้เกือบหมด จนให้ความรู้สึกเหมือนกินสเปรดของคาวกับขนมปังเลย
แต่หากใครอยากเริ่มด้วยสตาร์ทเตอร์ร้อนๆ เชฟก็มีอีกเมนูแนะนำ Cheese Fondue Ravioli (780 บาท) ราวิโอลีชีส 4 ชนิดที่เสิร์ฟมาพร้อมซุปใสกับสมุนไพร จานนี้เข้ากันดีกับเครื่องดื่มสีใสจากฝรั่งเศสด้วยนะ
หลังจากนั้นเป็นเมนูกินหนักขึ้นและเหมาะจะสั่งมาแบ่งกินด้วยกัน เชฟให้ลองจานตัวแทนจากทะเลฝรั่งเศสเป็น Mussels Marinières (980 บาท) หอยแมลงภู่จากเขตบริตานีนึ่งไวน์และครีม คนชอบอาหารทะเลอย่างเราไม่มีอะไรจะบ่น
ตามมาด้วย Fish Quenelles (980 บาท) เมนูฝรั่งเศสดั้งเดิมที่คล้ายมูสปลา เพราะนำเนื้อปลาไปบดผสมครีม ก่อนนำมาขึ้นรูปทรงไข่ เสิร์ฟพร้อมซอสไวน์ขาว ไข่ปลาเทราต์ที่เพิ่มความเค็มและมัน แม้จะแอบเลี่ยนหากไม่มีเครื่องดื่มช่วย แต่เราก็ยังกินจนหมดอยู่ดี
ไฮไลต์ของมื้อนี้คงต้องยกให้ Cantal Farmed Pig (1,350 บาท) หมูสามชั้นเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำที่มาพร้อมความหวานจากแอปเปิ้ล แม้เป็นเมนูที่ดูเรียบง่าย แต่ความหอมและรสชาติไม่ธรรมดาเลยล่ะ
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Traditional Crêpes Suzette (480 บาท) ที่พนักงานจะเข็นมาทำให้ถึงข้างโต๊ะอย่างร้อนแรง แนะนำให้จับคู่กับไอศกรีมสักลูก (110 บาท) จะสมบูรณ์แบบ หรือใครจะสั่ง Grand Marnier Soufflé (450 บาท) ซูเฟลที่มาพร้อมไอศกรีมวานิลลา มากินปิดท้าย ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับสายหวาน
แต่สำหรับคนตามหาคานาเล่ที่ดีมาหลายร้านอย่างเรา หากกลับมานั่งเล่นที่ร้านนี้อีกจะไม่พลาดสั่ง คานาเล่ (80 บาท) เป็นอันขาด เพราะมองปราดเดียวก็รู้ว่าต้องกรอบและหอมกลิ่นคาราเมลไรซ์ตามแบบฉบับฝรั่งเศสแน่นอน
Alpea
Open: เปิดทุกวัน โดยร้านอาหารเริ่มเวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.00 น. ร้านของชำเปิดเวลา 10.00-20.00 น.
Address: สาทร ซอย 10
Facebook: https://www.facebook.com/maisondunandbkk
Budget: 1,500-2,000 บาท
Map: