“ผมเชื่อว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก… ในอนาคตเราจะมีเพลงไทย ภาษาไทยไปสู่ระดับโลกได้” กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ซีอีโอของ 411 Entertainment เปิดตัวค่ายเพลง 411 Music พร้อมเปิดตัวนักร้องหญิงเดี่ยวคนแรก ALLY แอลลี่-อชิรญา นิติพน และโชว์เพลง How To Love (Feat. GRAY) กันแบบสดๆ โดยที่ GRAY บินตรงจากเกาหลีมาร่วมแรปในเพลงด้วย
กึ้งไม่ได้ขึ้นมาบนเวทีเองในการเปิดตัวช่วงแรก เขาใช้โฮโลแกรมแนะนำการเดินทางของ 411 Entertainment ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 12 ของการจัดโชว์ แฟนมีต และคอนเสิร์ตของศิลปินจากเกาหลี พร้อมกับนำเสนอว่าจะปฏิวัติอุตสาหกรรมเพลงไทยด้วยการใช้ Innovation Platform ซึ่งดูแล้วน่าสนใจ เพราะหากวิธีคิดแตกต่างก็เป็นไปได้ว่าจะเปิดโอกาสให้เพลงไทยได้รับความนิยมในวงกว้างสอดคล้องกับยุคดิสรัปต์
“นี่คือก้าวแรก และเราจะไม่หยุดก้าว” กึ้งพยายามย้ำคำนี้ อธิบายว่าเขาเองก็เรียนรู้จากการทำงานนี้ไปด้วยเช่นกัน ทั้งยังหวังว่าจะได้รับแรงเชียร์และกำลังใจในการช่วยกันพัฒนาศิลปินไทยให้ไปไกลในระดับสากล
“ทำไมวันนี้ศิลปินเกาหลีจึงประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ในเกาหลี ไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่ไปไกลถึงยุโรปและอเมริกาได้ ผมเชื่อว่าทุกอย่างคือการลงทุน แต่ว่าสิ่งที่เกาหลีเขาลงทุน นอกจากพรสวรรค์และพรแสวงของเด็กแต่ละคนแล้วยังมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าคนไทยได้ฝึกฝนในรูปแบบเดียวกัน เด็กไทยของเราไม่มีทางจะแพ้ชาติใดในโลก”
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ต้องย้อนไปราว 2 ปีก่อนที่เขาเปิด Training Music Center ของ 411 Music ที่เกาหลีใต้ คัดเลือกเด็กฝึกหัดเป็นศิลปินด้วยตัวเอง ส่งไปฝึกที่เกาหลีในมาตรฐานเดียวกับวงการเคป๊อป ทั้งระบบการฝึกซ้อม การมีผู้จัดการดูแลใกล้ชิด ทีมโปรดิวเซอร์ระดับโลกที่คัดเลือกมาทำงานเพลงให้เหมาะกับศิลปินแต่ละคน โดยในปี 2020 นี้จะมีผลงานเพลงทั้งวงเกิร์ลกรุ๊ปและบอยกรุ๊ปออกมาให้ได้ฟังกัน
สำหรับศิลปินเบอร์แรก แอลลี่-อชิรญา นิติพน อายุ 15 ปี เธอไปเรียนร้อง เต้น และทักษะอีกมากมายที่เกาหลีใต้ปีกว่าๆ เป็นการจากครอบครัวไปไกล และทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เข้มงวดของการฝึก กระทั่งคุณแม่ของแอลลี่ก็ไปเจอได้แค่เดือนละครั้ง “ตอนที่อยู่เกาหลี แอลลี่ได้พัฒนาสกิล ได้ดูแลตัวเอง ต้องมีความรับผิดชอบ อดทนทุกอย่าง… ช่วงแรกเคยโดนว่าเหมือนกัน ถ้าจะเต้นแบบนี้กลับบ้านไปเลยก็ได้”
และด้วยแต้มต่อเรื่องคอนเน็กชันการทำงานกับทีมงานเกาหลีมา 11 ปีเต็มของ 411 Entertainment ทำให้วันนี้เราได้เห็นแอลลี่ที่ถูกขัดเกลาให้เติบโตทั้งความสามารถและการมีวินัยในการฝึกอย่างทุ่มเท “แอลลี่ผ่านน้ำตามาเยอะครับ เป็นความยากในการดูแลศิลปินอายุ 14-15 ปี แต่เขาก็ต้องเรียนรู้ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้น” กึ้งช่วยเสริม
ภาพลักษณ์ของแอลลี่ที่เราได้เห็นก่อนหน้านี้อาจจะดูเปรี้ยว เฉี่ยว ด้วยโครงหน้าสวยแปลกตา แต่ตัวตนบนเวทีของเธอยังคงเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่น่ารัก สดใส ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาจากความรู้สึก ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ที่เพิ่มคะแนนให้แอลลี่กลายเป็น #ลูกสาวคนใหม่ ได้อย่างที่ทางค่ายวางเอาไว้
นอกเหนือจากการฝึกเป็นศิลปินที่ใช้มาตรฐานเดียวกับเคป๊อปแล้ว โปรดิวเซอร์และทีมทำเพลงยังเป็นคนในวงการดนตรีเกาหลีใต้ที่มีการทำ Song Camp ให้เหล่าโปรดิวเซอร์ไปอยู่รวมกันแล้วทำเพลงออกมา โดยเพลงแรกที่ใช้ในการเดบิวต์ของแอลลี่คือ How To Love (Feat. GRAY) ฝีมือการทำดนตรีของสองโปรดิวเซอร์ GXXD และ MOON โดยได้ GRAY มาร้องท่อนแรป ออกมาเป็นเพลงสไตล์ป๊อปอาร์แอนด์บีที่ติดหูตั้งแต่ฟังครั้งแรก เมโลดี้สวยแบบสากล เนื้อเพลง 3 ภาษาที่ไม่ขัดเขินเวลาร้องร่วมกัน
GRAY ให้สัมภาษณ์ว่าฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็ชอบเลย ยิ่งเป็นเพลงของโปรดิวเซอร์ที่เขาชอบด้วย จึงตอบตกลงร่วมโปรเจกต์นี้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนที่ยอมร่วมงานกับใครง่ายๆ “ช่วงที่เขียนเพลงนี้ผมพยายามใช้ภาษาอังกฤษ เพราะอยากสื่อสารกับแฟนๆ คนไทยมากขึ้น ตอนที่ได้ฟังเสียงน้องแอลลี่ร้องเพลง เสียงเพราะมาก ผมก็รู้เลยว่าเพลงนี้ผมต้องลงมือเองแล้ว ดีใจครับที่ได้ร่วมทำเพลงเดบิวต์ให้น้อง”
How To Love (Feat. GRAY)
มิวสิกวิดีโอนี้ (ที่ตอนนี้ยอดวิวเกือบ 4 ล้านแล้ว) เป็นผลงานของ พัคซูบิน ในฐานะ Music Video Director และอิมซูรัน ในตำแหน่ง Music Video Producer พร้อมทีมงานเกาหลีทั้งหมด และถ่ายทำกันที่กรุงโซล ซึ่งต้องยอมรับในคุณภาพที่ส่งให้เพลงเข้มข้นน่าฟังมากยิ่งขึ้น ทั้งยังดึงเสน่ห์ของแอลลี่ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
โดยในงานเดบิวต์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 แอลลี่ได้โชว์เพลง How To Love ให้ชมกันสดๆ แม้ว่าบนเวทีช่วงที่ GRAY ออกมาแรปสดจะขโมยซีนอยู่บ้างด้วยความเจนเวที แต่การแสดงโดยรวมของแอลลี่ถือว่าสอบผ่าน แน่นอนว่าเธอยังต้องพัฒนาตัวเองและสั่งสมประสบการณ์ทั้งการเอ็นเตอร์เทนท์คนดู รวมทั้งพลังเสียงในการร้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของศิลปินหน้าใหม่
สำหรับเด็กสาววัย 15 ปีที่เดบิวต์ผลงานเพลงแรกกับค่ายเพลงเปิดใหม่ก็ต้องถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่ดีทีเดียว เมื่อเธอมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งทักษะ ความสามารถ ค่ายเบื้องหลังที่สนับสนุนและลงทุนเต็มที่ ทำให้เราอยากเห็นเส้นทางดนตรีของเธอทอดยาวไปไกลอย่างที่หวัง อย่างที่แอลลี่บอกเอาไว้ว่า “ความฝันของหนูคือมายืนตรงนี้ และได้ร้องเพลงให้ทุกคนฟัง”
ภาพ: 411 Music
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
