×

‘จาตุรนต์’ แนะทุกฝ่ายต้องผนึกกำลังแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ‘พริษฐ์’ บอกมี 4 ด่านที่ต้องผ่าน ชี้ไม่แก้ฉบับปี 60 อาจเจอระเบิด 3 อาวุธ ล้มรัฐบาลเลือกตั้งได้

โดย THE STANDARD TEAM
08.07.2023
  • LOADING...
เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL)

วันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) จัดเสวนาหัวข้อ ‘บทบาทของรัฐสภา และเส้นทางสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน’ โดยมีผู้เข้าร่วม เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมวงพูดคุย

 

จาตุรนต์กล่าวเริ่มต้นว่า รัฐธรรมนูญ 2 ฉบับก่อนหน้านี้ หลักการอำนาจไม่ได้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน แต่เพื่อบางองค์กรบางกลุ่ม จึงได้รัฐบาลเผด็จการมา 5 ปี และรัฐบาลที่ไม่ตอบสนองประชาชนมา 4 ปี รวมถึงวันนี้แม้การเลือกตั้งจะชนะท่วมท้น แต่ก็ยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ การเลือกตั้งจึงยังไม่มีความหมาย ดังนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นประเทศจะล้าหลังไปเรื่อยๆ เดินหน้าไม่ได้ และจะมีปัญหากับประชาชนในปัจจุบันและอนาคต

 

จาตุรนต์ยังกล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า คนที่เขียนรัฐธรรมนูญเขาออกแบบไว้ให้อย่างแยบยล ทำให้แก้ยากเป็นพิเศษ ตนเสนอว่าถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญต้องทำทั้งฉบับ และเริ่มจากการมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนกรณีที่ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองทะเลาะกันในขณะนี้ ตนอยากให้ความสนใจกับการแก้รัฐธรรมนูญมากกว่า เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่กว่าตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยควรต้องรณรงค์ร่วมกับประชาชน ช่วยกันตั้ง สสร. ให้สำเร็จ และนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

 

“อยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เราต้องผนึกกำลังกันจริงๆ เพราะภารกิจการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายอยากเห็น” จาตุรนต์กล่าว

 

พ.ต.อ. ทวีกล่าวว่า การจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ต้องมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้ได้ 1 ใน 3 หรือประมาณ 60 คน มาร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมามีการถ่ายโอนอำนาจจาก คสช. ผ่าน ส.ว. ซึ่งเป็นรัฐประหารเงียบ โดยจากนี้อีกประมาณ 10 เดือน ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ส.ว. ก็จะหมดอายุ และเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งจากประชาชน 

 

พ.ต.อ. ทวีระบุว่า ตอนนี้เรามีความหวัง โดยเริ่มจากวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ รัฐสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ถ้าเรามองให้ลึก การเลือกไม่ควรใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ แต่ควรเลือกตามจริยธรรม เช่น ด้านความรู้ ความสามารถ การมีคุณธรรม แต่การจะเอานโยบายที่หาเสียงของพรรคก้าวไกลมาเป็นเหตุผลไม่เลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตนคิดว่าจะเป็นความคิดที่ผิด ดังนั้นจึงเชื่อว่าตามที่ ส.ว. มณเฑียร บุญตัน บอก ส.ว. ควรเลือกตามเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่เสียงข้างน้อย และถ้าเลือกโดยการซื้องูเห่าก็จะผิดหลักการ 

 

“การเป็นประชาธิปไตยควรจะต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ” พ.ต.อ. ทวีกล่าว

 

ด้านพริษฐ์กล่าวว่า การฟื้นฟูประชาธิปไตยและนำพาประชาธิปไตยกลับสู่สถานการณ์ปกติ คือต้องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งในมุมมองของพรรคก้าวไกล รัฐธรรมนูญปี 2560 ขาดความชอบธรรมในด้านของเนื้อหา และจัดทำโดยคนที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม แม้จะผ่านการทำประชามติแต่ไม่ได้เป็นเสรี และคนที่คัดค้านหลายคนถูกดำเนินคดี รวมทั้งคำถามพ่วงที่นำมาซึ่ง ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีมีความซับซ้อนและชี้นำ

 

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มี 279 มาตรา มีหลายส่วนขัดกับหลักประชาธิปไตยสากลและเจตนารมณ์ประชาชน และมีการฝังอาวุธ 3 ชนิด คือ 1. ส.ว. อำนาจล้นฟ้าในการเลือกนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการโหวตกฎหมายสำคัญของประเทศ 2. ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ซึ่งกระบวนการและแต่งตั้ง ซึ่งถูกคาดหวังว่าต้องมีความเป็นกลางกับถูกเลือกโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และ 3. ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ผูกขาดและเปิดช่องให้ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากดำเนินนโยบายขัดกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แม้จะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์ต่อประเทศ 

 

พริษฐ์ระบุว่า แม้วันที่ 13 กรกฎาคม เรามีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ อาวุธเหล่านี้อาจเป็นระเบิดเวลาที่ทำให้ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราไม่เพียงพอ 

 

พริษฐ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประชาชนจะต้องผ่าน 4 ด่าน ก็คือการทำประชามติ 2 ครั้ง การเลือกตั้ง สสร. และการทำประชามติครั้งที่ 3 ซึ่งใน 4 ด่านจะต้องมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินครึ่ง และเกินครึ่งจะต้องเห็นชอบกับกระบวนการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และจะต้องทำให้รัฐธรรมนูญแก้ไขได้แต่ฉีกไม่ได้ และวางให้ต่อต้านการรัฐประหารในอนาคต 

 

ทั้งนี้ การร่างรัฐธรรมนูญอาจจะใช้เวลา 2-3 ปี ดังนั้นระหว่างทางจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 รายมาตราที่สุ่มเสี่ยงไม่ให้ขัดขวางรัฐธรรมนูญใหม่ และรณรงค์ให้คนเห็นความสำคัญในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม หากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกในเดือนสิงหาคม เชื่อว่าเราอาจจะจัดทำประชามติครั้งที่ 1 ภายในปีนี้ได้ และ ส.ว. ชุดนี้ที่ทำหน้าที่อยู่จะไม่ปัดตกร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพราะไม่มีเหตุผล หากเราจัดทำประชามติและประชาชนเห็นด้วยแล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising