อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยืนยันว่า การเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ลุล่วงไปด้วยดี และจะยังคุมทีมทั้ง 2 ชุดตามเดิม โดยมีเป้าหมายคือฟุตบอลโลก ปี 2026
เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น ได้นำ ‘ช้างศึก’ ชุดใหญ่ ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกไปแล้ว 5 นัด รั้งอันดับ 3 ของกลุ่มจี มี 8 คะแนน ส่วนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถสร้างประวัติศาสตร์ พาทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก
ภายหลังการประชุมรายงานสรุปผล อากิระ นิชิโนะ กล่าวว่า “วันนี้การเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ลุล่วงไปได้ด้วยดีครับ และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกที ในวันศุกร์นี้”
“สืบเนื่องจากสัญญาฉบับแรกที่เราเซ็นไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจะสิ้นสุดในเดือนมกราคมนี้ ในการเซ็นสัญญาครั้งนั้นเป็นการประเมินผลงาน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พอจบการแข่งขันเราก็ได้พูดคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ ส่วนรายละเอียดยังคงเป็นเหมือนเดิม คือผมจะเป็นโค้ชของทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
“ส่วนในสัญญาใหม่ 2 ปี เราจะเห็นผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้น และผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายที่สมาคมฯ วางไว้ ก็คือการผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก ในปี 2026 เนื่องจากทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทำผลงานได้ดี ก็จะพยายามทำให้มันต่อยอดเพื่อให้ดีขึ้น และอยากยกมาตรฐานฟุตบอลไทยให้มากกว่าเดิม
“ตั้งแต่ตอบรับการคุมทีม เราก็รู้ดีว่านี่คืองานที่ยากลำบากและมีความท้าทาย ที่ต้องดูแลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แต่มันก็ไม่ราบรื่นชนิดยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว แต่ก็คิดว่านักเตะเราก็พอมีศักยภาพ และมีความหวังในการพัฒนาไปในอีกระดับ ก็คิดว่าพอใจกับการพัฒนาที่เกิดขึ้น”
ส่วนเป้าหมายในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ในอีก 3 เกมที่เหลือ นิชิโนะ กล่าวว่า “เราไม่มีทางเลือกครับ นอกจากจะต้องเก็บแต้มให้ได้หมด เพื่อโอกาสในการเข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งนี้ โดยเฉพาะ 3 นัดที่เหลือ เรามี 2 นัดที่แข่งในบ้าน และผลงานของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะทำให้ทีมเรามีจำนวนผู้เล่นมากขึ้น และทำให้ทีมชุดใหญ่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“เมื่อสักครู่ก็ได้มีการปรึกษากับทาง การ์เลส โรมาโกซา ในเรื่องการวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เราต้องทำอะไร ถ้าเราใส่รายละเอียดลงไปมากกว่านี้ ในแต่ละขั้นตอน เราก็มีโอกาสพัฒนาไปได้มากกว่านี้
“สิ่งสำคัญที่เราเน้นย้ำก็คือ เรื่องการจัดการแข่งขัน เพื่อให้เรามีโอกาสในการไปแข่งขัน โดยเฉพาะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะมีการเก็บตัวไปพร้อมกับชุดใหญ่ตลอดปีนี้ เพื่อให้หาทีมแข่งขันได้มากขึ้น จำนวนเกมมากขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน
“สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในปลายปีนี้ เนื่องจากช่วงระยะเวลา เราไม่สามารถใช้ผู้เล่นต่างประเทศได้ รายการนี้เป็นรายการที่แฟนบอลให้ความสำคัญไม่แพ้ซีเกมส์ เราก็อยากไปลงแข่งขัน เพื่อเอาชนะทุกเกม แต่ก็ต้องดูระยะเวลา ก็ต้องดูสถานการณ์ในตอนนั้น และพยายามจัดทีมให้เทียบเท่ากับชุดใหญ่ให้ได้มากที่สุด”
สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี เปิดบ้านรับการมาเยือนของอินโดนีเซีย ในวันที่ 26 มีนาคม 2563
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์