ทุกวันนี้คุณใช้อินเทอร์เน็ตที่ความเร็วเท่าไร? แล้วแน่ใจหรือว่าความเร็วที่คุณใช้อยู่เพียงพอแล้ว?
อย่าเพิ่งตอบคำถามใดๆ จนกว่าจะได้ลองอินเทอร์เน็ตความเร็วใหม่จาก AIS NEXT G ที่เพิ่งเปิดให้ใช้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วที่สูงถึง 1 Gbps เป็นครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
AIS NEXT G ก้าวใหม่ที่ข้ามทุกขีดจำกัด
หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าความเร็วระดับ 1 Gbps ที่ว่านี้มีความแรงระดับไหน ซึ่งเมื่อย้อนไปดูผลสำรวจความเร็วของอินเทอร์เน็ตทั่วโลก จากกลุ่ม M-Lab ที่รวบรวมข้อมูลจาก 189 ประเทศทั่วโลกจะพบว่า ประเทศที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลกตอนนี้คือ สิงคโปร์ โดยความเร็วของการดาวน์โหลดเฉลี่ยอยู่ที่ 55.13 เมกะบิต (Mbps) ต่อวินาที ซึ่งสามารถดาวน์โหลดหนังระดับ HD ขนาด 7.5 GB เสร็จด้วยเวลาเพียง 18 นาที 34 วินาทีเท่านั้น
ดังนั้นถ้าเป็นความเร็วระดับ 1 Gbps ของ AIS NEXT G เท่ากับว่าจะสามารถดาวน์โหลดหนังขนาด 7.5 GB ด้วยเวลาที่ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง พร้อมรองรับการใช้งาน live แบบเรียลไทม์ สตรีมมิงหนังหรือวิดีโอความละเอียดสูงแบบ 4K ดาวน์โหลด/อัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ เทคโนโลยี AR ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้ดีกว่าความเร็วของ 4G และ 4.5G โดยทั่วไป
ซึ่งตอนนี้ลูกค้า AIS ที่ใช้เครื่อง Samsung Galaxy S8, S8+, S7 และ S7Edge สามารถทดลองใช้จริงได้ทันที โดยต้องเปิดฟังก์ชัน NEXT G บนมือถือ เปิดใช้งานทั้ง Mobile Data และ WiFi ที่เชื่อมต่อกับ AIS SMART Login และต้องมีแพ็เกจ NEXT G และแพ็กเกจ AIS SUPER WiFi รวมถึงต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ AIS SUPER WiFi และล็อกอินอยู่ จึงจะใช้งาน NEXT G ได้อย่างสมบูรณ์ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบอุปกรณ์มือถือว่ารองรับการใช้งาน NEXT G หรือไม่ แค่กด *987# โทรออก หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทาง www.ais.co.th/nextg
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เผยวิสัยทัศน์ต่อก้าวย่างดังกล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider หน้าที่ของเราคือนำขีดความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมาร่วมสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย เพื่อให้เป้าหมายข้างต้นเกิดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทันต่อการเคลื่อนไปของโลกยุคใหม่ เราจึงยกระดับขีดความสามารถขององค์กรสู่ Next Generation ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย Network, Platform for Sharing Economy, Experience, Teams อันถือเป็นการยกระดับทั้งองค์กรและอุตสาหกรรมในเวลาเดียวกัน”
AIS Shop โฉมใหม่ สะท้อนแนวคิด Digital Transformation ของ AIS
ไม่ใช่แค่ความเร็วอินเทอร์เน็ตเท่านั้นที่ถูกอัพเกรด แต่วิสัยทัศน์ของ AIS ในเรื่อง Digital Transformation ยังถูกสะท้อนออกมาผ่าน AIS Shop โฉมใหม่ บริเวณชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคดิจิทัล ซึ่งใช้งบลงทุนสูงถึง 40 ล้านบาท โดยใช้แนวคิด AIS The Digital Gallery ที่ประกอบไปด้วย 5 โซนหลัก
1. Digital Gallery พื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมสุดล้ำจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่ให้ลูกค้า AIS ได้สัมผัสก่อนใคร ทั้งสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่, Wearable Tracking ต่างๆ เพื่อคนรักสุขภาพ, Drone รวมถึงแก็ดเจ็ตไฮเทคอีกมากมาย
2. Digital Bar พื้นที่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สามารถเข้ามาทดลองใช้สินค้า เวิร์กช็อป พูดคุย หรือปรึกษากับ Digital Guru ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยคอยแนะนำลูกค้าอย่างมืออาชีพ
3. Connected โซนที่รวบรวมแอ็กเซสซอรีมากมายที่จะเชื่อมชีวิตของคนยุคใหม่กับโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เช่น กล้อง GoPro Smart Watch, ลำโพง, หูฟัง และ Interactive Projector ที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวเรียบๆ ในบ้านให้เป็นหน้าจอทัชสกรีน
4. Digital Entertainment สัมผัสความเร็วเต็มสปีดจาก AIS Fibre อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูง ที่มอบประสบการณ์ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ จากทั้งแอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX ที่มาพร้อมคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลก
5. Serenade ห้องรับบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าเซเรเนดคนพิเศษโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ AIS ยังพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ อย่าง Ask Aunjai เป็น virtual agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง Artificial Intelligence (AI), Chatbot และ Smart Knowledge Base ทำให้สามารถตอบคำถาม ให้คำแนะนำลูกค้าออนไลน์ทั้งบนเว็บไซต์ AIS และบนแอปฯ my AIS ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีความเป็น humanity เหมือนได้คุยกับพนักงาน
นับเป็นก้าวที่น่าสนใจขององค์กรใหญ่อย่าง AIS ที่กำลังปรับสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่