×

แอดไวซ์ ไอทีฯ IPO ตัวแรกปี 67 เคาะราคาขาย 3.24 บาท ให้ส่วนลดกระหน่ำ 50%

18.01.2024
  • LOADING...

ประเดิมหุ้น IPO ตัวแรก บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จ่อเข้าเทรด SET วันที่ 31 มกราคมนี้ หลังกำหนดราคา IPO ที่ 3.24 บาทต่อหุ้น ให้ส่วนลดหนักหวังปั้นส่วนต่างให้นักลงทุนฝ่าภาวะตลาดหุ้นผันผวน

 

ยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท หรือ ADVICE ผู้จำหน่ายปลีก-ส่งสินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบครบวงจร ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 3.24 บาท ซึ่งจะเปิดเสนอขายจำนวนไม่เกิน 170 ล้านหุ้น เปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 22-24 มกราคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 31 มกราคมนี้ 

 

ทั้งนี้ ADVICE นับได้ว่าเป็นหุ้น IPO ตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในปี 2567 โดยเข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจบริการและพาณิชย์ โดยการเลื่อนมาจากแผนเดิมที่จะเข้าซื้อขายในปี 2566 เนื่องจากสถานการณ์ตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย

 

สำหรับราคาหุ้นราคา IPO ที่ 3.24 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 10 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 อีกทั้งราคา IPO ดังกล่าวยังมีส่วนลด (Discount) ที่สูงประมาณ 50% จากค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทเทียบเคียงกับกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งอยู่ในหมวดธุรกิจเดียวกับบริษัท ได้แก่ บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 มี P/E Ratio อยู่ที่ 18.63 เท่า ขณะที่ P/E ของบริษัทที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน ได้แก่ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) หรือ SIS, บมจ.เอสวีโอเอ หรือ SVOA และ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX มี P/E อยู่ในช่วงระหว่าง 12.37-15.13 เท่า

 

“ราคาขายหุ้น IPO ของ ADVICE เราคุยมานานมากตั้งแต่ช่วงปี 2566 เนื่องจากสถานการณ์ตลาดหุ้นดูไม่สู้ดี จึงให้ Discount สูง เพราะเผื่อรองรับในกรณีที่สภาวะตลาดไม่ดีด้วย จึงคิดว่าราคานี้น่าจะมีส่วนต่างให้กับนักลงทุนพอสมควร”

 

สำหรับจุดเด่นของ ADVICE เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 25 ปี จัดอยู่ในกลุ่มของผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าไอที และมียอดขายสินค้าไอทีติดอันดับสูงสุด 1 ใน 4 ของประเทศ 

 

รัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ ADVICE ย้อนหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2563-2565 มีรายได้จากการขายและบริการที่ 12,541.2 ล้านบาท, 14,305.8 ล้านบาท และ 14,388.2 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับ 8.1% ต่อปี โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 233.8 ล้านบาท, 430.2 ล้านบาท และ 205.7 ล้านบาทตามลำดับ

 

อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 10,336.5 ล้านบาท ลดลง 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงที่ดีกว่าภาพรวมตลาด เนื่องมาจากการปรับฐานเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากความต้องการสินค้าไอทีเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ 9 เดือนของปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 136.5 ล้านบาท

 

บริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่สัดส่วนมากกว่า 65% มาจากธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที โดยขายสินค้าผ่านช่องทางสาขาของบริษัทและช่องทางออนไลน์ รวมถึงการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าองค์กร ขณะที่รายได้อีกประมาณ 35% มาจากการค้าส่งสินค้าไอทีให้แก่สาขาแฟรนไชส์และตัวแทนจำหน่ายสินค้าในจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นการให้บริการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นหลัก

 

ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 338 สาขา ประกอบด้วย สาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของจำนวน 110 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในจังหวัดที่สำคัญของประเทศไทย และสาขาแฟรนไชส์อีก 228 แห่ง กระจายอยู่ในแหล่งชุมชนในอำเภอและจังหวัดต่างๆ ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศไทย รวมถึงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 

 

ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท กล่าวว่า การขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 527.3 ล้านบาท ไปใช้ดังนี้

 

  1. การลงทุนขยายธุรกิจ รวมถึงการขยายสาขา และการปรับปรุงสาขาเดิมของบริษัท 
  2. ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 
  3. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า 
  4. ลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดผ่านการขยายสาขาและร้านค้าแฟรนไชส์ รวมทั้งยอดขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ พร้อมกับการขยายธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าแบรนด์ของ Apple อย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาส 1/67 โดยเมื่อได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ บริษัทจะเปิดร้านภายใต้ชื่อ ‘iStudio by Advice’ เพื่อวางของ Apple โดยตั้งเป้าหมายในระยะยาวจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าของ Apple เพิ่มเป็น 25% จากปี 2566 ที่มีสัดส่วนประมาณ 5% ของรายได้รวม

 

พร้อมทั้งเพิ่มรายได้เสริมผ่านศูนย์บริการและรับซ่อมสินค้าอย่างเป็นทางการ การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นผ่านการปรับประเภทผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย และขยายฐานลูกค้าองค์กร อีกทั้งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน 

 

ADVICE ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น คาดว่าจะมีหน้าร้านรวมทั้งสิ้น 390 แห่ง ผ่านการเปิดสาขาของบริษัทเพิ่มอีก 20 แห่ง ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก พร้อมขยายสาขาแฟรนไชส์อีก 30 แห่ง และในอนาคตมีแผนที่ต้องขยายธุรกิจใหม่คือ กลุ่มสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเพื่อสร้างอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน

 

 

โดย ADVICE ได้แต่งตั้ง บล.เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.กรุงศรี และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising